หน้าแรก

คำถามแรกๆที่มิตรชาวไร่หลายคนสงสัยเมื่อได้เห็นวิธีการปลูกอ้อยสมัยใหม่แบบมิตรผลโมเดิร์นฟาร์มคืออ้อยที่ปลูกด้วยวิธีนี้จะให้ผลผลิตได้เท่าเดิมหรือไม่ตอนนี้ทุกคนคงได้คำตอบแล้วใช่ไหมครับว่าวิธีการปลูกอ้อยสมัยใหม่แบบมิตรผลโมเดิร์นฟาร์มให้ผลผลิตอ้อยไม่น้อยกว่าการปลูกแบบเก่าและที่แน่นอนที่สุดคือมิตรชาวไร่ใช้ต้นทุนในการปลูกน้อยลงกว่าเดิมครับ

หลักพื้นฐานที่สำคัญอย่างหนึ่งของวิธีการปลูกอ้อยสมัยใหม่แบบมิตรผลโมเดิร์นฟาร์มนั่นก็คือการออกแบบแปลงปลูกอ้อยใหม่ให้มีการวางผังพื้นที่ (Farm Layout) ที่มีองค์ประกอบสำคัญคือให้ทิศทางแนวปลูกมีความยาวแปลง 250 เมตร ขึ้นไปมีระยะร่องปลูกกว้าง 1.85 เมตร เพื่อควบคุมแนวล้อวิ่งของรถแทรกเตอร์และเครื่องจักรกลการเกษตรตามหลัก 4 เสาพลัส

ระยะร่องปลูกอ้อยที่กว้างขึ้นกว่าการปลูกอ้อยแบบเดิมจะทำให้ลดการใช้ท่อนพันธุ์ลงไปได้จำนวนมากคำนวณได้จากพื้นที่ 1 ไร่ มีขนาด 40X40 เมตรคำนวณท่อนพันธุ์ที่จะต้องใช้คือ 1 ต้นยาวประมาณ 2 เมตร หรือ 200 เซนติเมตร หนักประมาณ 2 กิโลกรัม พื้นที่ปลูกยาว 40 เมตร จะใช้ท่อนพันธุ์ก่อนตัดแบ่งเป็นท่อน 20 ต้น

  1. ปลูกที่ระยะห่าง 1.20 เมตรจะได้ร่องปลูก 33 ร่อง (40 เมตร ÷ 1.2 เมตร) ใช้ท่อนพันธุ์จำนวน 20 ต้น X 33 ร่อง = 660 ต้น หรือใช้ท่อนพันธุ์หนัก 1,320 กิโลกรัม ( 660 ต้น X 2 กิโลกรัม)
  2. ปลูกที่ระยะห่าง 1.50 เมตรจะได้ร่องปลูก 26 ร่อง (40 เมตร ÷ 1.5 เมตร) ใช้ท่อนพันธุ์จำนวน 20 ต้น X 26 ร่อง = 520 ต้น หรือใช้ท่อนพันธุ์หนัก 1,040 กิโลกรัม (520 ต้น X 2 กิโลกรัม)
  3. ปลูกระยะห่าง 1.85 เมตร จะได้ร่องปลูก 22 ร่อง (40 เมตร ÷ 1.85 เมตร) ใช้ท่อนพันธุ์จำนวน 20 ต้น X 22 ร่อง = 440 ต้น หรือใช้ท่อนพันธุ์หนัก 880 กิโลกรัม (440 ต้น X 2 กิโลกรัม)

หากคิดเป็นต้นทุนต่อไร่เอาราคาท่อนพันธุ์ขอนแก่น 3 พันธุ์อ้อยยอดฮิตตอนนี้อยู่ที่ราคาตันละ 1,500-2,000 บาท การปลูกอ้อยระยะห่าง 1.85 เมตร จะประหยัดต้นทุนท่อนพันธุ์เมื่อเทียบกับการปลูกระยะห่าง 1.20 เมตร ได้ประมาณ 800 บาทต่อไร่ เลยทีเดียวครับ

อีกวิธีหนึ่งที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านท่อนพันธุ์ได้คือการเตรียมอ้อยพันธุ์ด้วยตัวเองซึ่งนอกจากจะช่วยให้ได้พันธุ์ที่ดีตามเวลาที่ต้องการแล้วยังได้อ้อยที่มีความสมบูรณ์อีกด้วยวิธีการคือเมื่อต้องการปลูกอ้อยพันธุ์ใดก็หาพันธุ์มาปลูกไว้ล่วงหน้าประมาณ 8-10 เดือนเพื่อให้อ้อยโตเต็มที่ก่อนตัด 2-3 สัปดาห์ ควรลอกกาบออกเพื่อให้ตาแข็งแรงอ้อยที่ปลูกไว้ทำพันธุ์ในเนื้อที่ 1 ไร่จะใช้ปลูกได้ 10 ไร่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระยะห่างและอัตราปลูกด้วย

ลักษณะอ้อยที่เหมาะสำหรับใช้ทำพันธุ์คือต้องเป็นอ้อยปลูก (Plant Cane) ที่ได้รับน้ำและปุ๋ยอย่างเพียงพอ มีการเจริญเติบโตดีปราศจากโรคและแมลงรบกวน ไม่ควรใช้อ้อยตอทำพันธุ์ อ้อยต้องไม่แก่หรืออ่อนเกินไปอายุที่เหมาะสมคือ 8-10 เดือนอ้อยที่อ่อนเกินไปมักจะแห้งง่ายและมีความงอกต่ำ โดยเฉพาะถ้าปลูกในฤดูแล้ง และดินมีความชื้นไม่พอ อ้อยที่แก่เกินไปจะมีความงอกต่ำเช่นกัน ลำควรมีขนาดปานกลางถึงขนาดใหญ่ อ้อยลำเล็กเกินไปจะให้ต้นอ่อนที่ไม่ค่อยแข็งแรงตั้งตัวได้ช้า

ส่วนการใช้ยอดของลำต้นที่ตัดเข้าหีบทำพันธุ์นั้นได้ผลน้อยกว่าอ้อยที่ปลูกไว้ทำพันธุ์โดยเฉพาะปัญหาเวลาตัด และ เวลาปลูกไม่สัมพันธ์กัน

นอกจากนี้การปลูกอ้อยที่ได้ผลดีควรจะปลูกอ้อยหลายพันธุ์ ที่สามารถเก็บเกี่ยวได้ในเวลาแตกต่างกันเพื่อให้ได้อ้อยที่มีคุณภาพดีส่งโรงงานน้ำตาลตลอดฤดูหีบ

การเตรียมท่อนพันธ์ุที่ดีจะส่งผลให้อ้อยมีการงอกที่ดีและการเจริญเติบโตที่ดีด้วย ท่อนพันธุ์ที่ดีต้องมีตาที่สามารถงอกและเจริญเติบโตได้อย่างน้อยท่อนละหนึ่งตา โดยทั่วไปแนะนำให้ใช้ท่อนพันธุ์ที่มี 2 ตาปลูก แต่ถ้าใช้ท่อนที่มี 3 ตาจะให้ผลดีกว่าทั้งในด้านความงอกและการเจริญเติบโตโดยเฉพาะในระยะแรกหากขาดความระมัดระวังเรื่องท่อนพันธุ์จะทำให้ความงอกต่ำจึงต้องมีการชดเชย โดยใช้ท่อนพันธุ์เกินความจำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นโดยใช่เหตุ การเตรียมท่อนพันธุ์ที่ดีนั้นควรตัดท่อนพันธุ์ให้มี3ตาตัดกึ่งกลางปล้องอย่าให้ตาถูกกระทบกระเทือนแช่ท่อนพันธุ์ด้วยยาฆ่าเชื้อราทันทีและแช่น้ำร้อน 50-52 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 30 นาที เพื่อป้องกันโรคที่อาจเกิดจากเชื้อไวรัส

การออกแบบแปลงปลูกอ้อยใหม่แบบมิตรผลโมเดิร์นฟาร์มนั้นมีแต่ข้อดีช่วยทั้งลดต้นทุนได้ไร่ละเกือบพันบาททำงานได้ง่ายขึ้นสะดวกขึ้นประหยัดเวลาขึ้นแบบนี้มิตรชาวไร่จะรอช้าอยู่ทำไมล่ะครับเปลี่ยนมาปลูกอ้อยสมัยใหม่แบบมิตรผลโมเดิร์นฟาร์มกันดีกว่านะครับ

ข่าวปักหมุด