หน้าแรก

“โดรน” อากาศยานไร้คนขับ ที่มีรูปร่างคล้ายกับเครื่องบินขนาดเล็ก สามารถขึ้น-ลงในแนวตั้งได้ ในยุคแรกโดรนถูกใช้ในทางทหาร และเป็นเครื่องมือสอดแนมข้าศึกโดยการติดกล้อง หรืออาจใช้เป็นอุปกรณ์ลอบสังหาร

สมัยนี้เรามักจะเห็นช่างภาพมืออาชีพใช้โดรนเป็นตัวถ่ายภาพมุมสูง แต่มิตรชาวไร่ทราบไหมคะว่า โดรนเริ่มถูกนำมาใช้ในวงการเกษตรอย่างแพร่หลายแล้วในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการพ่นยา หว่านเมล็ดพันธุ์ หว่านปุ๋ย หรือการตรวจสอบพื้นที่เพาะปลูกเพื่อวิเคราห์หาการเจริญเติบโตของพืชในแต่ละจุด ด้วยการถ่ายภาพทางอากาศโดยใช้ระบบ GPS ในการหาพิกัดต่าง ๆ ออกมา แล้วนำค่ามาวิเคราะห์

ลองนึกดูเล่น ๆ นะคะว่า การทำไร่แบบมิตรผลโมเดิร์นฟาร์ม ที่เน้นการนำเครื่องจักรและเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้แทนแรงงานคนที่ขาดแคลนขึ้นทุกวัน เจ้าโดรนตัวนี้จะเข้ามาช่วยทำงานในไร่อ้อยที่กว้างใหญ่ไพศาลของเราได้อย่างไร ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับของเล่นชาวไร่ที่เรานำมาแนะนำกันดีกว่าค่ะ

DJI Mavic Pro

เป็นโดรนขนาดเล็ก กระทัดรัด พับปีกได้ น้ำหนักเพียง 743 กรัม มีกล้องนำทางหน้า เซ็นเซอร์ด้านล่าง พร้อมตัววัดระยะด้วยคลื่นอัลตร้าโซนิค (คลื่นเสียงที่มีความถี่สูงเกินกว่าที่หูมนุษย์จะได้ยิน) ครบถ้วนด้วย ระบบลงจอดอัตโนมัติ ระบบบินกลับฐานอัตโนมัติ ระบบติดตามเป้าหมาย ควบคุมได้ทั้งผ่านรีโมทที่มีจอภาพในตัว หรือผ่านแอพบนสมาร์ทโฟนก็ได้ (ถ้าบินไม่ไกลจนเกินไป)

รายละเอียด DJI Mavic Pro

  • บินได้นานถึง 27 นาที ความเร็วสูงสุด 64.8 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในโหมด Sport และ 38.5 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในโหมดเสถียร บินได้ไกลถึง 7 กิโลเมตร
  • คลื่นความถี่ 2.4 GHz to 2.483 GHz
  • บันทึกวิดีโอได้ที่ 4K 30fps หรือ 1080p ที่ 96 fps
  • กล้องถ่ายภาพความระเอียด 12 ล้านพิกเซล สามารถพลิกกล้องได้ 90 องศา
  • มีตัวขาจับ gimbal (อุปกรณ์มอเตอร์ 3 แกนหมุนอิสระ ทำให้ตัวกล้องตั้งตรง) มาในตัว
  • ถ่ายทอดสดวิดีโอจากโดรนไปยัง Facebook Live, Periscope, Youtube
  • มีรีโมทควบคุมระยะไกล ถูกออกแบบใหม่ให้มีความกะทัดรัดขึ้น พร้อมหน้าจอ LCD มีปุ่มสั่งงานเฉพาะ ได้แก่ ปุ่ม Return-to-Home กับปุ่ม Intelligent Flight pause เป็นต้น

จากคุณสมบัติข้างต้น โดรนน่าจะช่วยถ่ายภาพทางอากาศด้วยระบบ GPS แทนแรงงานคน ที่ต้องเดินตรวจสภาพภายในไร่ แน่นอนว่าจะประหยัดทั้งเวลา ประหยัดทั้งแรงงาน แถมทำงานได้เยอะ เพราะโดรนตัวหนึ่ง สามารถทำงานได้ถึง 38 กิโลเมตร ต่อชั่วโมงเลยทีเดียว ซึ่งในอนาคตโดรนน่าจะมีราคาที่ถูกลงมากกว่านี้ เพราะมีการแข่งขันกันหลายบริษัท ผลดีก็ตกมาสู่ตัวเกษตรกรอย่างเราที่จะได้ใช้ของดี มีคุณภาพ และราคาย่อมเยาว์

ข่าวปักหมุด