หน้าแรก

เชื้อเมธาไรเซียม (Metarhizium anisopliae) คือ เชื้อราชนิดหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคกับแมลง ลักษณะโดยทั่วไปของเชื้อราเมธาไรเซียม คือ เมื่อเจริญเติบโตเต็มที่จะมีสีเขียวหม่น พบทั่วไปในดิน สามารถมีชีวิตอยู่ในดินได้นาน ทำให้มีระยะการควบคุมได้นาน เป็นเชื้อราที่ไม่มีอันตรายต่อไส้เดือน สัตว์ต่าง ๆ และมนุษย์ อีกทั้งเป็นเชื้อราที่เพาะเลี้ยงได้ง่าย จึงนิยมนำไปใช้ในรูปแบบของสารชีวินทรีย์ฆ่าแมลง (สารชีวินทรีย์ หมายถึง สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กชนิดหนึ่ง เช่น ไวรัส เชื้อรา แบคทีเรีย หรือจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในด้านเกษตรและอุตสาหกรรม)

เชื้อเมธาไรเซียม-004.jpg

เชื้อเมธาไรเซียม-003.jpg

คุณสมบัติที่ดีของเชื้อราเมธาไรเซียม

  1. เพาะเลี้ยงได้ง่าย สามารถเลี้ยงได้บนเมล็ดธัญพืช และอาหารเลี้ยงเชื้อ
  2. มีความคงทนในสภาพแวดล้อมสูง สามารถมีชีวิตอยู่ในดินได้ข้ามปี
  3. ใช้ได้ง่าย โดยการคลุกผสมเชื้อสดลงในดิน หรือละลายเชื้อราและผสมน้ำฉีดพ่น แพร่กระจายได้ง่าย โดยปลิวไปกับลม หรือติดไปกับคน สัตว์ หรือแมลงต่าง ๆ

ประโยชน์ของเชื้อราเมธาไรเซียม

ปัจจุบันมีการนำเชื้อเมธาไรเซียมมาใช้ในการควบคุมแมลงศัตรูพืชหลายชนิด อย่างกว้างขวาง สามารถทำให้เกิดโรคในแมลงได้หลายชนิด เช่น ด้วงแรดมะพร้าว ปลวก ตั๊กแตน หนอนด้วง หนอนผีเสื้อ มวน และเพลี้ยต่าง ๆ ส่วนใหญ่ใช้กำจัดแมลงในดินโดยเฉพาะในกลุ่มหนอนด้วง ป้องกันในระยะไข่ ตัวหนอน ดักแด้ และตัวเต็มวัย

การควบคุมและทำลาย

เชื้อราเมธาไรเซียมสามารถควบคุมและทำลายแมลงได้โดยเข้าสู่ร่างกายแมลงทางผิวหนัง หรือช่องว่างของลำตัว จากนั้นจะสร้างเอนไซม์เพื่อช่วยย่อยผนังลำตัวบางส่วน และงอกสปอร์แทงผ่านลำตัวเข้าไปเจริญเติบโตและเพิ่มปริมาณขึ้น ทำให้แมลงเกิดโรคตายในที่สุด แมลงที่ตายด้วยเชื้อราเมธาไรเซียม จะมีลักษณะลำตัวแข็ง มีเชื้อราขึ้นปกคลุมลำตัวภายนอกเป็นสีเขียว

สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม

เชื้อราเมธาไรเซียมสามารถอยู่ได้ในที่แห้ง อุณหภูมิไม่เกิน 40 องศา แต่ระยะเวลาในการทำลายจะเร็วหรือช้า ขึ้นกับสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม คือ อุณหภูมิ 25-30 องศาเซลเซียส ความชื้น มากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ส่วนแสงแดดมีผลยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราเพราะรังสียูวี นอกจากนี้ ความรุนแรงของเชื้อ จะรุนแรงมากหรือน้อย ยังขึ้นกับลักษณะพันธุกรรมของเชื้อ ความแข็งแรง หรือภูมิต้านทานของแมลงอีกด้วย

วิธีการใช้เชื้อราเมธาไรเซียมในการควบคุมแมลงศัตรูพืชในไร่อ้อย

หลักการสำคัญ คือ เชื้อหรือสปอร์ต้องสัมผัสถูกตัวแมลงจึงจะสามารถเข้าไปในตัวแมลงและทำลายแมลงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หนอนด้วงหนวดยาว ด้วงแรด และปลวก ซึ่งอาศัยอยู่ในดิน จึงต้องหาวิธีที่เหมาะกับการอยู่อาศัยของแมลงและสภาพพื้นที่ปลูกอ้อย สำหรับวิธีการที่ใช้เพื่อป้องกันในปัจจุบัน ได้แก่

  1. โรยหรือหว่านเชื้อ ก่อนเตรียมดินปลูกพืช ในอัตรา 1 กิโลกรัมต่อไร่ แล้วรีบไถกลบฝังทันทีเพื่อไม่ให้แสงแดดเผาทำลายเชื้อรา
  2. ละลายเชื้อราเมธาไรเซียมให้ได้แต่สปอร์ แล้วผสมน้ำราดหรือฉีดพ่นลงไปในดิน โดยใช้เชื้อราเมธาไรเซียม 1 กิโลกรัม ผสมน้ำ 200 ลิตร ผสมสารจับใบหรือน้ำยาล้างจานเล็กน้อย เพื่อลดแรงตึงผิวของเชื้อราให้เข้ากับน้ำได้ดี นำไปราดหรือใส่เครื่องพ่นยา ฉีดพ่นลงดินและตามต้นพืช
  3. วิธีการละลายให้ได้แต่สปอร์ สามารถใช้เชื้อราไปกลับระบบน้ำหยดได้ โดยใช้เชื้อราเมธาไรเซียม 1 กิโลกรัม ผสมน้ำ 200 ลิตร

จากข้อมูลนี้แล้วทำให้เห็นว่า เชื้อรา ไม่ใช่ตัวเชื้อโรคที่น่ารังเกียจเสมอไป เพราะยังมีเชื้อราตัวดี ที่มีประโยชน์ต่อชาวไร่อ้อยอย่างเจ้า เมธาไรเซียม อยู่นั่นเอง

เชื้อเมธาไรเซียม-005.jpg

เชื้อเมธาไรเซียม-006.jpg

ขอบคุณข้อมูล : ศูนย์บริหารศัตรูพืช จังหวัดขอนแก่น / ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตร ด้านอารักขาพืชจังหวัดสุราษฎร์ธานี / ศูนย์วิจัยเอสวีกรุ๊ป

ข่าวปักหมุด