หน้าแรก

การเลือกใช้พันธุ์อ้อยให้เหมาะสมกับพื้นที่ เป็นปัจจัยแรกของการเพิ่มผลผลิตอ้อยได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งมิตรชาวไร่ควรมีหลักการของการคัดเลือกพันธุ์อ้อยให้เหมาะสมกับพื้นที่ เพื่อให้ได้พันธุ์อ้อยที่เหมาะสม

สำหรับหลักการเลือกพันธุ์อ้อยให้เหมาะสมนั้น รวบรวมมาพอเป็นสังเขปแก่มิตรชาวไร่ดังนี้

  1. เป็นพันธุ์ที่ให้ผลผลิตต่อไร่สูงและมีคุณภาพความหวานสูง ซึ่งโดยทั่วไปควรมีค่าซีซีเอส. สูงกว่า 12
  2. เป็นพันธุ์อ้อยที่มีความต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูอ้อยที่สำคัญ โดยเชื่อมโยงกับแหล่งปลูกอ้อย กล่าวคือ ในพื้นที่ใดที่มีโรคและแมลงศัตรูอ้อยชนิดใด พันธุ์อ้อยที่ควรเลือกใช้ในพื้นที่นั้น ๆ ก็ควรเป็นพันธุ์อ้อยที่ต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูอ้อยที่สำคัญดังกล่าวเช่น การต้านทานต่อโรคเหี่ยวเน่าแดง โรคแส้ดำ การเข้าทำลายของหนอนกออ้อย เป็นต้น
  3. สอดคล้องกับพฤติกรรมความชอบ และวิธีการปฏิบัติในการปลูกและดูแลรักษาอ้อยของเกษตรกรแต่ละรายในแต่ละพื้นที่รวมทั้งความพร้อมทางด้านเครื่องมือ เครื่องจักรกลทางเกษตร และแรงงาน เป็นต้น
  4. เลือกพันธุ์อ้อยให้เหมาะสมกับสภาพดินในพื้นที่ปลูกอ้อยของแต่ละท้องถิ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามสภาพดิน วิธีการให้น้ำ เป็นต้น เพื่อให้อ้อยสามารถแสดงศักยภาพ ของพันธุ์อ้อยในการให้ผลผลิตและคุณภาพอ้อยได้อย่างเต็มที่ ตามคำแนะนำของ นักวิชาการหรือนักส่งเสริมที่มีข้อมูลว่าพันธุ์อ้อยใด เหมาะสมกับชนิดดินแบบใด และรูปแบบวิธีการปลูกแบบใด
  5. พิจารณาความสามารถในการไว้ตอของอ้อย โดยพบว่าอ้อยตอคือส่วนที่เป็นผลกำไรของการผลิตอ้อย ดังนั้น อ้อยที่เลือกใช้ควรเป็นพันธุ์ที่สามารถไว้ตอได้ดีและนานหลายปี โดยในแต่ละรอบผลผลิตอ้อยอาจลดลงได้แต่ไม่ควรเกินร้อยละ 20 ของอ้อยปลูก
  6. อายุการเก็บเกี่ยวอ้อย เพราะอ้อยแต่ละสายพันธุ์มีอายุการเจริญเติบโต และการสะสมน้ำตาลที่แตกต่างกันไป โดยบางพันธุ์มีการสะสมน้ำตาลเร็ว บางพันธุ์มีการสะสมน้ำตาลช้า และความยาวนานของการมีระดับการสะสมน้ำตาลในระดับสูง (ความหวาน ลดลงเร็ว หรือช้า) ซึ่งพันธุ์อ้อยที่เกษตรกรชาวไร่สามารถเลือกใช้แบ่งเป็น 3 กลุ่ม

6.1 อ้อยพันธุ์เบา คืออ้อยที่มีการสะสมน้ำตาลเร็วและมีอายุเก็บเกี่ยวประมาณ 8-10 เดือน อาจเก็บเกี่ยวช่วงต้นฤดูหีบ (พฤศจิกายน – ธันวาคม) เช่น K84-69, K90-77, LK95-118, LK95-124, อีเหี่ยว, อู่ทอง 2, อู่ทอง 5, อู่ทอง 6, KU50, KU60-2 และ KU60-3 เป็นต้น

6.2 อ้อยพันธุ์กลาง คืออ้อยที่มีการสะสมน้ำตาลเร็วปานกลาง อายุการเก็บเกี่ยวระหว่าง 10-12 เดือน เหมาะสมสำหรับการเก็บเกี่ยวช่วงกลางหีบ (มกราคม– กุมภาพันธ์) เช่น K88-65, K88-87, K92-80, K97-27, K99-72, อู่ทอง 3, อู่ทอง 8, กพส. 94-13 และขอนแก่น 3 เป็นต้น

6.3 อ้อยพันธุ์หนัก คืออ้อยที่มีการสะสมน้ำตาลช้าอายุการเก็บเกี่ยวมากกว่า 12 เดือน เหมาะสมสำหรับการเก็บเกี่ยวปลายฤดู เช่น K84-200, K88-92, K92-213, K90-54, อู่ทอง 1 และอู่ทอง 7 เป็นต้น

  1. พันธุ์อ้อยที่มีคำแนะนำและส่งเสริมให้ปลูกในแต่ละเขตพื้นที่ดังนี้

7.1 พื้นที่ปลูกอ้อยในเขตภาคเหนือ ได้แก่ LK92-11, ขอนแก่น 3, K88-92, K99-72, K97-27, อู่ทอง 3 และ อู่ทอง 7 เป็นต้น

7.2 พื้นที่ปลูกอ้อยในเขตภาคกลาง ได้แก่ LK92- 11, ขอนแก่น 3, K88-92, K99-72, อู่ทอง 7 เป็นต้น

7.3 พื้นที่ปลูกอ้อยภาคตะวันออก ได้แก่ LK92-11, ขอนแก่น 3, K88-92, K95-84, อู่ทอง 1, อู่ทอง 2, อู่ทอง 3 และอู่ทอง 7 เป็นต้น

7.4 พื้นที่ปลูกอ้อยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ K88-92,K95-84,K97-27, LK92-11 และขอนแก่น 3 เป็นต้น

พันธุ์อ้อยที่-003.jpg

ทั้งนี้ นี่เป็นเพียงข้อมูลด้านวิชาการที่มิตรผลโมเดิร์นฟาร์มได้ค้นคว้าหาข้อมูลนำมาเผยแพร่เพื่อประกอบความคิด การตัดสินใจ ของพี่น้องมิตรชาวไร่เท่านั้น ความเหมาะสมโดยแท้จริงแล้ว ประสบการณ์ของมิตรชาวไร่เองก็มีส่วนสำคัญในการพิจารณาประกอบร่วมกับข้อมูลเชิงวิชาการ รวมถึงการวางแผนบริหารจัดการไร่อ้อย ก็เป็นอีกเรื่องที่มีส่วนในการเพิ่มผลผลิตของอ้อยได้เป็นอย่างดี

ที่มาข้อมูล-ภาพ

https://www.kubotasolutions.com/

http://sugar-asia.com/

https://furtherafrica.com/

ข่าวปักหมุด