อ้อยโรงงาน เป็นพืชที่ต้องการน้ำตลอดทั้งปีประมาณ 1,500 มิลลิเมตร หรือ 2,400 ลูกบาศก์เมตรต่อไร่ นั่นหมายถึงมิตรชาวไร่ต้องส่งเสริมน้ำอ้อยให้เพียงพอต่อความต้องการตลอดทั้งปี ซึ่งนอกจากน้ำจากฝนแล้ว มิตรชาวไร่ควรหาแหล่งน้ำสำรองในหน้าแล้ง ทั้งการขุดสระเก็บน้ำเสริมฝน หรือการเจาะบ่อบาดาลน้ำตื้น เป็นต้น

เมื่อมีแหล่งน้ำเพียงพอแล้ว วิธีการให้น้ำอ้อยเป็นเรื่องสำคัญในลำดับต่อมา เนื่องจากการวางระบบให้น้ำอ้อยจะสอดคล้องกับทรัพยากรน้ำที่เรามี ซึ่งแน่นอนว่าระบบการให้น้ำมีหลายประเภท แต่แบบไหนล่ะ ที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุด ใช้ทรัพยากรน้ำที่มีให้เกิดประโยชน์คุ้มค่าและประหยัดน้ำได้มากที่สุด

ส่วนใหญ่ชาวไร่นิยมให้น้ำอ้อย 3 รูปแบบคือ ให้น้ำอ้อยแบบราดร่อง ให้น้ำอ้อยแบบฉีดฝอย และให้น้ำอ้อยด้วยระบบน้ำหยด ทั้ง 3 ระบบนี้มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไป แต่วิธีที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุดถึง 95 เปอร์เซ็นต์ คือการให้น้ำอ้อยด้วยระบบน้ำหยด

ระบบน้ำหยด เป็นระบบให้น้ำอ้อยจากแหล่งน้ำต่าง ๆ เช่น สระน้ำ บ่อบาดาล แหล่งน้ำธรรมชาติ และสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า แม้จะมีต้นทุนค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับวิธีการให้น้ำแบบอื่น ๆ แต่การให้น้ำหยดนอกจากจะให้น้ำอ้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังใช้ต้นทุนต่ำในด้านแรงงาน ค่าปั๊มน้ำ ต่างจากการให้น้ำแบบราดร่องและฉีดฝอยที่มีค่าใช้จ่ายเรื่องแรงงานและการกำจัดวัชพืชที่เพิ่มขึ้นมาในแปลงอ้อยที่ค่อนข้างสูงกว่าด้วย

ระบบน้ำหยดสามารถให้ปุ๋ยผสมไปพร้อมกับน้ำได้ทันที ซึ่งราดร่องกับฉีดฝอยทำไม่ได้ ต้องเพิ่มขั้นตอนให้ปุ๋ย เสียเวลาและใช้แรงงานเพิ่มขึ้น จะเห็นว่าระบบน้ำหยดสามารถให้น้ำอ้อยได้อย่างทั่วถึง มีอายุการใช้งานยาวนาน และใช้งานได้ง่ายเพียงลงทุนแค่ครั้งเดียว

เมื่อเปรียบเทียบแล้วการให้น้ำหยด เป็นระบบการให้น้ำที่ใช้ทรัพยากรน้ำประหยัดคุ้มค่าที่สุด มิตรผลโมเดิร์นฟาร์มจึงขอแนะนำระบบน้ำหยดในไร่อ้อย แบบชุด Mobile สามารถเคลื่อนย้ายได้ ขนาดพื้นที่ 5 ไร่ ซึ่งมีส่วนประกอบดังนี้

อย่างไรก็ดี การเลือกระบบให้น้ำอ้อยขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและปัจจัยต่าง ๆ ของไร่อ้อยแต่ละแปลง ทั้งนี้ มิตรผลโมเดิร์นฟาร์มหวังว่าบทความนี้จะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจให้มิตรชาวไร่ได้พิจารณาถึงประโยชน์สูงสุดที่ระบบน้ำหยดให้เราได้มากกว่าคำว่าต้นทุนสูงแน่นอน

ขอบคุณที่มาข้อมูล-ภาพ

https://www.mitrpholmodernfarm.com

https://www.kaisong.asia/

http://ekladata.com/