สวัสดีค่ะเพื่อนมิตรชาวไร่ ในยุคที่คนเริ่มใส่ใจสุขภาพ และหันมาพิถีพิถันกับอาหารการกินมากขึ้น ทุกคนสังเกตไหมคะว่า คนที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพ มักจะเลือกลด “น้ำตาล” “ความหวาน” เข้ามาเป็นประเด็นหลักเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายด้านสุขภาพของตนเอง เพราะทุกคนเชื่อว่าหลายเมนูอาหารหรือเครื่องดื่มแก้วโปรด ต่างมีน้ำตาลที่มากเกินไป ซึ่งมีส่วนทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น และป่วยเป็นโรคอ้วน โรคเบาหวาน หรือความดันโลหิตสูง ทำให้หลายคนเลือกหันไปบริโภคอาหารที่มีส่วนผสมของ “สารทดแทนความหวาน” หรือ “เครื่องดื่มสูตรไดเอท” แทน
เมื่อกระแสของการเลือกบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีสารทดแทนความหวานเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้นักวิจัยให้ความสนใจเกี่ยวกับประโยชน์และคุณค่าที่แท้จริงของสารทดแทนความหวาน ไม่ผิดเลยใช่ไหมคะ ที่นักวิจัยจะคิดแบบนั้น เพราะอะไรที่มนุษย์กินหรือดื่มเข้าไป เป็นเรื่องที่ถูกต้องค่ะ ที่จะมีใครมาให้ความสำคัญต่อสิ่งที่เราดื่มหรือกินเข้าไป เพื่อศึกษาถึงคุณค่าที่แท้จริงของอาหารนั้น
แน่นอนค่ะว่า สารทดแทนความหวาน คืออีกโจทย์ที่นักวิจัยให้ความสนใจ จะเห็นได้จากเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมามีผลงานวิจัยออกมาเปิดเผยว่า การบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีรสหวานแต่เป็นสูตรไร้น้ำตาล หรือน้ำตาลน้อยเหล่านี้ กลับส่งผลเสียมากกว่าที่คิด เพราะสารนี้สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมองในคนเพิ่มขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับคนที่ไม่บริโภคสารทดแทนความหวานเลย
นอกจากนี้ ล่าสุดยังมีผลการวิจัยออกมาอีกว่า สารทดแทนความหวานชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่า “แอสปาร์แตม” ซึ่งมักพบในน้ำอัดลม น้ำผลไม้ และหมากฝรั่งปราศจากน้ำตาล อาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้ด้วย ทำให้ทางองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้เผยแพร่แนวทางแนะนำไม่ให้ผู้บริโภคใช้สารทดแทนความหวานเพื่อควบคุมน้ำหนัก และเตรียมขึ้นบัญชีสารนี้ให้กลายเป็นสารที่อาจก่อมะเร็งในมนุษย์ ในเดือนกรกฎาคม 2566 นี้
"สารทดแทนความหวาน" หรือ "น้ำตาลเทียม" (Artificial Sweeteners) เป็นสารที่ผลิตขึ้นมาเพื่อเติมรสชาติหวานให้กับอาหารและเครื่องดื่มทดแทนน้ำตาลจากธรรมชาติ ซึ่งส่วนมากจะให้พลังงานหรือแคลอรี่ต่ำ หรือในบางครั้งก็อาจไม่มีแคลอรี่เลย ขึ้นอยู่กับชนิดของน้ำตาลเทียม โดยมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด ดังนี้
“แอสปาร์แตม” เป็นสารแทนความหวานที่มีรสชาติใกล้เคียงน้ำตาลมากที่สุด ดังนั้นจึงเป็นสารที่คนนิยมใช้ในปัจจุบันมากที่สุดนั่นเองค่ะ
น้ำตาลเทียมอันตรายอย่างไร ? น้ำตาลเทียมหรือสารแทนความหวานเหล่านี้อาจเชื่อมโยง 6 ปัญหาสุขภาพ ดังต่อไปนี้
หลายคนอาจสงสัยว่า ถ้าสารแทนความหวานเหล่านี้อันตราย แล้วทำไมคนจึงสามารถนำมาปรุงอาหารหรือใช้เป็นส่วนประกอบของเครื่องดื่มสำหรับบริโภคได้ คำตอบคือ เมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมา มีผลการวิจัยพบว่าสารแทนความหวานอิริทรินอล (Erythritol) นั้นปลอดภัย จนมีกฎหมายอนุญาตให้ใช้ได้ทั่วโลกในอาหารและเครื่องดื่ม
อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ปราศจากน้ำตาลที่มีอิริทริทอล แนะนำให้กลุ่มผู้ที่เป็นโรคอ้วน โรคเบาหวาน หรือกลุ่มอ้วนลงพุง กินได้เพื่อแนวทางในการควบคุมน้ำตาลและปริมาณแคลอรี่เท่านั้น
ข้อมูลวิจัยถึงอันตรายของสารแทนความหวานหรือน้ำตาลเทียมข้างต้นนี้ เป็นข้อมูลที่อยากให้มิตรชาวไร่ในฐานะผู้บริโภคคนหนึ่งได้พิจารณาและชั่งน้ำหนักถึงประโยชน์และคุณค่าที่แท้จริงของสารเหล่านี้ ดังนั้นหากเรายังมีสุขภาพที่ดี ไม่ได้ป่วยเป็นโรคอ้วน โรคเบาหวานอยู่แล้ว เราควรลด หลีกเลี่ยง และควบคุมปริมาณน้ำตาล ทานน้ำตาลแต่พอดีเพื่อการดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอย่างแท้จริง
ขอบคุณข้อมูลจาก :