หน้าแรก

พี่น้องมิตรชาวไร่เชื่อไหมคะว่าความ 4.0 ที่เข้ามาต่อท้ายทุกสิ่งอย่างในโลก ช่างสร้างความกดดันให้กับการพัฒนาในหลาย ๆ ด้านของประเทศซะเหลือเกิน ด้วยความที่อยากจะก้าวทันโลก ทำให้ประเทศเราต้องวิ่งตามเทคโนโลยีให้ทันในทุก ๆ ด้าน ที่เกี่ยวข้องกับมิตรชาวไร่ของมิตรผลมากที่สุดเห็นจะเป็น AgTech ( Agriculture Technology) หรือเทคโนโลยีการเกษตรสมัยใหม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้เลย เพราะการเกษตรถือเป็นอุตสาหกรรมหลักของไทยรวมถึงอาเซียนเลยก็ว่าได้ ยิ่งไทยจะเดินหน้า Thailand 4.0 ด้วยแล้ว สตาร์ทอัพสายเทคโนโลยีทั้งหลายต้องมาพัฒนา Agtech ด่วน ๆ เพราะตอนนี้หลายประเทศทั่วโลกเริ่มก้าวกระโดดไปไกลแล้ว ยกตัวอย่างเช่น

อิสราเอล ที่สร้าง 400 สตาร์ทอัพเทคโนโลยีเกษตร  ที่มุ่งเปลี่ยนแปลงเกษตรกรรมของทั้งโลก ครอบคลุมในทุก ๆ ด้าน ได้แก่ แพลตฟอร์มการจัดการฟาร์มอัจฉริยะ การให้น้ำ การจัดการโรคและแมลง โดรนและหุ่นยนต์เกษตร การดูแลรักษาพืช จักรกลเกษตรอัจฉริยะ การเก็บเกี่ยว การจัดการตลาด ระบบเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอัจฉริยะ เทคโนโลยีชีวภาพ เทคโนโลยีการจัดการของเสีย ระบบเลี้ยงปศุสัตว์อัจฉริยะ และระบบสมาร์ทฟาร์ม

ออสเตรเลีย ตั้งเป้าสร้างฟาร์ม และ ไร่นา ที่สามารถทำงานได้ด้วยตนเอง (Automated Farming) ภายในปี ค.ศ. 2025  โดยมีหุ่นยนต์ทำงานในไร่นา เก็บเกี่ยว และแปรรูปเบื้องต้น ทั้งหมด

อินโดนีเซีย เกิดสตาร์ทอัพชื่อ i-Grow ที่ให้ผู้ใช้ลงทุนเพาะปลูกผ่านสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียว เริ่มจากเลือกซื้อเมล็ดพันธุ์พืชต่าง ๆ เช่น มะพร้าว ถั่วลิสงจากนั้นเกษตรกรกว่า 2,000 รายในระบบจะเป็นผู้ปลูก และเก็บเกี่ยวผลผลิตให้ ซึ่งรายได้ทั้งหมดที่เกิดขึ้นจะแบ่งกันระหว่างเกษตรกร และผู้ลงทุน ไม่ต้องห่วงเรื่องรายได้เพราะมีการการันตีหลังการปลูกด้วย ปัจจุบันมีผู้ใช้งานแอปพลิเคชั่นนี้กว่า 10,000 คน และลงทุนเพาะปลูกไปกว่า 10 ล้านต้นแล้ว….อื้อหือ! อะไรจะไฮเทคปานนั้น

ยังไม่หมดเท่านี้ พี่อินโดเขายังมีอีกหนึ่งสตาร์ทอัพ คือ CI Agriculture  เป็นการสร้างแพลตฟอร์มขึ้นมา โดยรวมการวิเคราะห์พื้นที่เพาะปลูกผ่านดาวเทียม Drone และเซ็นเซอร์ตรวจสอบความชื้นของดิน เพื่อให้ผลลัพธ์เกี่ยวกับสถานที่ว่าคุ้มค่าแก่การเพาะปลูกหรือไม่ มิตรชาวไร่รู้ไหมว่า เจ้า CI Agriculture สามารถให้คะแนนแก่พื้นที่ว่ามีคุณภาพในการเพาะปลูกแค่ไหน และอนาคตว่ากันว่าจะสามารถนำตัวเลขดังกล่าวไปยื่นต่อสถาบันการเงินเพื่ออนุมัติเงินกู้เพื่อทำเกษตรกรรมให้ง่ายขึ้นได้อีกด้วย….โอ้ววววแม่เจ้า อะไรจะเจ๋งขนาดนี้

ต่อกันที่สิงคโปร์ พี่เขามีสตาร์ทอัพ ชื่อ Garuda Robotics เป็นการสร้างซอฟต์แวร์ให้โดรน เพื่อช่วยตรวจสอบพื้นที่ และทำกิจกรรมต่าง ๆ แทนแรงงาน เช่น การโปรยปุ๋ยให้กับผลผลิตอย่างแม่นยำและครอบคลุมพื้นที่ที่เกษตรกรต้องการ เพราะส่วนใหญ่แล้วแรงงานคนอาจทำได้ไม่แม่นยำนัก และถึงทำได้ดี ก็คงวิเคราะห์พื้นที่ได้ไม่ดีเท่ากับซอฟต์แวร์แน่นอน

เห็นการพัฒนาระบบเกษตรด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ของแต่ละประเทศแล้ว  ก็เกิดความหวังน้อย ๆ ว่าอีกไม่นานประเทศไทยของเราก็คงพัฒนาอย่างเขาบ้าง โดยเฉพาะการปลูกอ้อยสมัยใหม่ที่ต่อไปเราอาจจะนั่งลงทุนทำไร่อ้อยด้วยสมาร์ทโฟนบนบ้าน รออัพเดตผลผลิตผ่านแอปพลิเคชั่นและรอรับเงินหลังการปลูกอยู่ที่บ้านก็เป็นได้ เรื่องของอนาคตเราคาดหวังได้อยู่แล้วจริงไหมคะ การวิ่งตามเทคโนโลยีไม่เหนื่อยหรอกค่ะถ้าเราวิ่งไปพร้อม ๆ กันทั้งประเทศ

ข้อมูลจาก

 https://brandinside.asia/agtech-in-asean/

https://smart-farm.blogspot.com/2018/02/blog-post.html?m=1

ข่าวปักหมุด