เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีข่าวโด่งดังเกี่ยวกับการระบาดของไวรัสนิปาห์ หรือโรคสมองอักเสบนิปาห์ จากประเทศอินเดีย จนทำให้มีคนเสียชีวิตถึง 2 ราย เพียงเพราะกินผลไม้ที่เก็บจากไซต์งานก่อสร้างที่พวกเขาทำงานอยู่…
ไวรัสนิปาห์ (นิ-ปา) เป็นไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่มีรายงานพบการระบาดเป็นครั้งแรกที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อปี พ.ศ.2542 จากนั้นแพร่ระบาดมาที่ประเทศ สิงคโปร์ บังคลาเทศ และอินเดีย
ถึงแม้จะยังไม่เคยระบาดในประเทศไทย แต่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ เพราะประเทศเหล่านี้คือเพื่อนบ้านผู้ใกล้ชิดของเรา
สำหรับไวรัสนิปาห์ หรือโรคสมองอักเสบนิปาห์ เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากสัตว์สู่คน ทำให้เกิดการติดเชื้ออย่างรุนแรงของระบบหายใจ สมองอักเสบและทำให้เสียชีวิตได้ เพราะปัจจุบันยังไม่มียา หรือวัคซีนที่ใช้รักษาอาการติดเชื้อไวรัสนิปาห์ในคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำได้เพียงรักษาตามอาการเท่านั้น
ตามธรรมชาติแล้วเชื้อไวรัสนิปาห์ อยู่ในร่างกายของค้างคาวกินผลไม้ซึ่งไม่แสดงอาการป่วย (คราวนี้แบทแมนเป็นผู้ร้ายซะแล้ว!!!) ส่วนสัตว์ชนิดอื่น ๆ อย่าง สุกร สุนัข แมว ม้า แพะ และแกะสามารถติดเชื้อไวรัสนิปาห์ จากการสัมผัส กินวัตถุปนเปื้อนปัสสาวะ อุจจาระ หรือน้ำลายของค้างคาว และเชื้อไวรัสนิปาห์ยังติดต่อกันได้โดยการสัมผัสหรือหายใจเอาเชื้อไวรัสเข้าไปด้วย (พบการติดต่อลักษณะนี้ในสุกร) ส่วนคนจะติดเชื้อไวรัสนิปาห์ได้จากการสัมผัสสุกรที่ติดเชื้ออย่างใกล้ชิด
ระยะแรก ๆ มักไม่ค่อยมีอาการ โดยเชื้อจะใช้เวลาฟักตัวประมาณ 1-2 สัปดาห์โดยเฉลี่ย อาการป่วยในระยะแรกจะคล้ายอาการของไข้หวัด มีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ วิงเวียนศีรษะ ปอดบวม เดินเซ เซื่องซึม สับสน ชักเกร็ง ทั้งนี้อาการจะค่อย ๆ ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ไปจนถึงขั้นโคม่าและเสียชีวิตในที่สุด ซึ่งผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสนิปาห์จะมีอัตราเสียชีวิตอยู่ราว ๆ ร้อยละ 40 – 50
สามารถทำได้โดยปฏิบัติตัวดังต่อไปนี้
กรณีสัตว์ : แจ้งสัตวแพทย์ทันที
กรณีคน : พบแพทย์ทันที
แม้ตอนนี้ ไวรัสนิปาห์ยังไม่ระบาดเข้ามาในประเทศไทย แต่เราทุกคนก็ควรป้องกันตัวเองให้ห่างจากเชื้อไวรัสดีกว่า กันไว้ดีกว่าแก้ เดี๋ยวแย่แล้วจะแก้ไม่ทัน!
ข้อมูลจาก
http://www.cfsph.iastate.edu/FastFacts/th/nipah.pdf
https://health.kapook.com/view194312.html
ภาพประกอบ : www.organicbook.com