พาราควอต สารกำจัดวัชพืชที่เกษตรกรไทยนิยมใช้กันมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะเกษตรกรที่ปลูกพืชเศรษฐกิจอย่าง อ้อย ยางพารา มันสำปะหลัง ปาล์ม และข้าวโพด เนื่องจากเห็นผลในการปราบวัชพืชอย่างรวดเร็วทันใจ แต่อีกมุมหนึ่งก็มีการเรียกร้องให้มีการประกาศยกเลิกใช้พาราควอตในประเทศไทย หลังมีผลวิจัยระบุว่า พาราควอตเป็นสารอันตราย ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง ที่สำคัญบางประเทศนำพาราควอตมาใช้ผิดวิธี แทนที่จะใช้กำจัดวัชพืช แต่นำมาฆ่าตัวตาย จากข้อมูลของสำนักงานสิ่งแวดล้อมสหรัฐฯ (EPA) ระบุว่า พาราควอต มีพิษสูง แค่กินเพียงจิบเดียวก็ทำให้เสียชีวิตได้ โดยไม่มียาถอนพิษ
ล่าสุดประเด็นเรียกร้องให้แบนพาราควอตในบ้านเรา กลับมาร้อนระอุอีกครั้ง เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา คณะกรรมการวัตถุอันตราย มีมติลงคะแนน 16 ต่อ 5 เสียง ไม่ยกเลิกการใช้สารเคมีเกษตร 3 ชนิด ได้แก่ สารพาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเสต ในพืช 6 ประเภท ได้แก่ ยางพารา ปาล์ม มันสำปะหลัง อ้อย ข้าวโพด และไม้ผลที่ขึ้นทะเบียน โดยจะพิจารณาเรื่องนี้อีกครั้งใน 2 ปีข้างหน้า เว้นแต่สามารถหาสารเคมีชนิดอื่นมาทดแทนได้ ซึ่งก็ถือเป็นการยืนยันจากมติเดิมที่ลงไว้เมื่อ 23 พฤษภาคม 2561
มติดังกล่าวทำให้ภาคประชาสังคม นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม ออกมาเคลื่อนไหวรณรงค์เรียกร้องให้รัฐบาลไทย “แบน” พาราควอต กันอีกครั้ง เพราะกว่า 51 ประเทศทั่วโลก ไม่อนุญาตให้ใช้สารพาราควอตเรียบร้อยแล้ว
28 ประเทศในสหภาพยุโรป ที่ยกเลิกไปตั้งแต่ปี 2550
9 ประเทศในเอเชีย ได้แก่ จีน กัมพูชา ลาว คูเวต เกาหลีใต้ ศรีลังกา ซีเรีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และเวียดนาม
6 ประเทศจำกัดการใช้อย่างเข้มงวด ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์
นับเป็นอีกประเด็นใหญ่ของวงการเกษตรกรรมไทย ที่ยังหาข้อสรุปร่วมกันไม่ได้ แต่สำหรับมิตรชาวไร่ของเราไม่ต้องกังวลไป เพราะการทำไร่สมัยใหม่แบบมิตรผลโมเดิร์นฟาร์ม ยกเลิกการใช้สารอันตรายอย่าง พาราควอต และไกลโฟเสต และ คลอร์ไพริฟอส กันไปนานแล้ว หันมาปลูกอ้อยยั่งยืน ควบคุมวัชพืชง่าย ๆ ด้วยหลักสี่เสาพลัส รับรองว่าได้อ้อยคุณภาพดี ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และสิ่งแวดล้อมแน่นอนจ้า
ขอบคุณที่มา:
https://www.thairath.co.th/content/1498513
https://www.bbc.com/thai/thailand-45312985