สำหรับข่าวคราวของสารกำจัดวัชพืช 3 ชนิด อย่าง พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอไพริฟอส ยังมีออกมาให้ลุ้นกันอย่างต่อเนื่องนะคะ ว่าจะห้ามใช้อย่างเด็ดขาด หรือให้ใช้อย่างจำกัด และจะเริ่มเมื่อไหร่ อะไรยังไงกันแน่

ล่าสุดคณะกรรมการวัตถุอันตรายชุดใหม่ ซึ่งมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เป็นประธานได้จัดประชุมพิจารณาทบทวนมติเกี่ยวกับรายชื่อวัตถุอันตราย และระยะเวลาในการบังคับใช้ พบว่ามีข้อจำกัดในการปฏิบัติ หากจะให้การยกเลิกการใช้วัตถุอันตรายทั้ง 3 รายการ มีผลในวันที่ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2562 ตามมติเดิม ซึ่งพบว่ามีผู้ไม่เห็นด้วย และมีข้อเสนอแนะเป็นจำนวนมาก ทั้งเรื่องการจัดการสารที่คงค้าง ซึ่งมีจำนวน 23,000 ตัน โดยประมาณ ซึ่งหากต้องทำลายจะต้องมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก และบางส่วนไม่สามารถผลักดันให้ส่งกลับไปได้ ผลกระทบที่จะเกิดต่ออุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่น อุตสาหกรรมอาหาร อาหารสัตว์ ซึ่งอาจจะไม่สามารถนำเข้าวัตถุดิบที่เป็นผลิตผลทางการเกษตรได้ เนื่องจากอาจมีสารตกค้างอยู่ในผลผลิตดังกล่าว และในประเด็นนี้ยังไม่มีมาตรการในการบริหารจัดการผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศ

สรุปคือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่สามารถบริหารจัดการได้ หากประกาศจะมีผลบังคับใช้ตามมติเดิม เพราะยังไม่มีมาตรการรองรับที่เหมาะสมสำหรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อเกษตรกร และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง รวมถึงผลกระทบด้านการค้าระหว่างประเทศ และภาระที่จะเกิดขึ้นกับภาครัฐ 

คณะกรรมการวัตถุอันตรายจึงได้พิจารณาและมีมติ ให้ออกประกาศกำหนดวัตถุอันตรายพาราควอต และคลอไพริฟอสเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 โดยให้กำหนดระยะเวลาใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.2563 สำหรับวัตถุอันตรายไกลโฟเชตให้ใช้มาตรการจำกัดการใช้ตามมติคณะกรรมการวัตถุอันตราย เมื่อวันที่ 23 พ.ค.2561

มิตรผลโมเดิร์นฟาร์มเชื่อว่า มิตรชาวไร่รวมถึงเกษตรกรทั่วไทย คงตั้งตารอความชัดเจนให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน เพื่อการเตรียมพร้อมหาข้อมูลสารกำจัดวัชพืชทดแทน

แต่สำหรับมิตรชาวไร่ที่ทำไร่อ้อยแบบมิตรผลโมเดิร์นฟาร์ม ที่ใช้หลักสี่สูตรลับ (4 สูตรลับ) ในการทำไร่อ้อย เริ่มจากอันดับแรกคือการ พักดินปลูกถั่ว สลับอ้อย  เพื่อตัดวงจรโรคและแมลงศัตรูอ้อย รวมไปถึงการคืนความสมดุลให้แก่แร่ธาตุอาหารในดินที่จะได้จากการปลูกถั่ว สองคือ ควบคุมแนวล้อวิ่ง ลดการเหยียบย่ำดิน สาม ลดการไถพรวน  และสุดท้าย ตัดอ้อยสดไว้ใบคลุมดิน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยลดการใช้สารเคมีกำจัดวัชพืช ที่ไม่ต้องแคร์ว่ารัฐจะให้ใช้สารกำจัดวัชพืชอะไรได้บ้าง เพราะการตัดอ้อยสดไว้ใบคลุมดิน นอกจากช่วยรักษาความชื้นในดินไว้แล้ว ยังช่วยควบคุมวัชพืชไปในตัว เพราะเมื่อมีใบอ้อยคลุมดิน วัชพืชก็ไม่สามารถเจอแสงแดดช่วยให้ยับยั้งการเจริญเติบโตได้ จึงลดปริมาณการใช้สารกำจัดวัชพืชลงได้โดยปริยาย

ขอบคุณที่มา

https://news.thaipbs.or.th/content/286503

https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_1378479