สวัสดีค่ะมิตรชาวไร่ทุกท่าน ช่วงนี้ฝนตกกระจายทั่วทุกพื้นที่เลยนะคะ ข้อดีของฝนสำหรับชาวไร่อย่างเรา นอกจากอ้อยตอที่ได้รับน้ำจากฝนอย่างชุ่มฉ่ำแล้ว ท่านที่มีพื้นที่สำหรับเก็บน้ำก็ได้กักเก็บน้ำได้อย่างเต็มที่ หวังว่าช่วงฝนนี้จะมีน้ำไว้พอใช้สำหรับการทำไร่อ้อยอย่างเพียงพอนะคะ
แต่ปัญหาของฝนที่ดูจะไม่น่ารักเลย โดยเฉพาะกับบ้านที่มีปัญหาเรื่องหลังคารั่ว ชำรุด ระบบท่อระบายน้ำมีปัญหา ระบายน้ำไม่ทัน และปัญหาอื่น ๆ อีกมากมาย ที่มักพบในตอนฤดูฝนทุกที แต่ถ้าเลือกได้ คงไม่มีใครอยากเจอ และถ้าเรารู้ปัญหาและเตรียมการรับมือก่อนฝนมา จากปัญหาหนักจะเปลี่ยนเป็นปัญหาจิบ ๆ โดยทันที โดยเฉพาะเรื่องบ้านค่ะ
มิตรผลโมเดิร์นฟาร์มวันนี้ จึงมีวิธีดูแลบ้านในหน้าฝนมาฝากพี่น้องมิตรชาวไร่เพื่อรับมือกับปัญหาของบ้านที่อาจจะเกิดขึ้นเพราะฝน สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับบ้านแต่ละหลังได้ ดังนี้ค่ะ
1. หลังคาบ้าน ฝ้า ผนัง 3 สิ่งนี้ถือว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญของบ้าน เราต้องมาตรวจสอบกันบ่อย ๆ เพราะ 3 สิ่งนี้เมื่อเกิดปัญหาขึ้นแล้วเรามักจะมาทราบทีหลังว่าได้เกิดปัญหากับบ้านของเรา วิธีตรวจสอบหลังคาบ้าน ฝ้า ผนัง ด้วยวิธีง่าย ๆ คือ หมั่นสังเกตุรอยแตกร้าว รอยรั่วต่าง ๆ ของบ้าน หรือรอยต่อของวัสดุต่าง ๆ ว่ามีรอยแตกหรือรอยแยกหรือไม่ ส่วนใหญ่ถ้าตรงไหนมีรอยแตกรอยแยกเรามักจะพบกับคราบรอยของน้ำ เมื่อเราพบปัญหาเหล่านี้เราต้องรีบซ่อมแซมให้เร็วที่สุด เพราะถ้าเราทิ้งไว้นานอาจจะมีปัญหาตามมาอีกมากมายจนทำให้บ้านของเราเสียหายเพิ่มมากขึ้น อาจจะไม่ใช่แค่รอยแยก แตกร้าวเท่านั้น
2. รางน้ำฝน รางน้ำฝนเป็นส่วนประกอบของบ้านอีกอย่างที่สำคัญ การทำความสะอาดรางน้ำฝนในช่วงฤดูฝนนั้นจำเป็นมาก เพราะตามรางน้ำฝนส่วนใหญ่มักจะพบเศษใบไม้ กิ่งไม้ ที่ไหลลงมากองรวมกันจนเป็นการปิดกั้นทางเดินของน้ำฝนที่จะมาในช่วงฤดูฝน เพราะถ้าหากเกิดปัญหาเหล่านั้นแล้ว นั้นจะเป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำฝนไม่ไหลไปในทางที่ต้องการ แต่น้ำฝนจะไหลย้อยหรือหยดจนเป็นสาเหตุให้น้ำฝนไหลเข้าบ้านเราได้ นั้นก็เป็นสาเหตุที่ทำใหบ้านเราเกิดความเสียหายตามมา
3. ท่อระบายน้ำ ท่อระบายน้ำภายในบ้านนั้นมีหลายแบบทั้งท่อระบายน้ำภายในบ้าน ท่อระบายน้ำออกข้างบ้าน หน้าบ้าน เราควรทำความสะอาดเป็นประจำ เพราะท่อระบายน้ำเหล่านั้นมักจะมีเศษของใบไม้ หรือโคลนสะสมจนทำให้ท่ออุดตัน
4. พื้น พื้นบ้านมักจะมาพร้อมกับคราบน้ำ คราบตะไคร่ เมื่อมีฝนตก น้ำเจิงนอง เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาคราบเหล่านี้ เพราะฉะนั้นเราควรที่จะทำความสะอาดพื้นที่มีคราบตะไคร่ด้วยการขัดทำความสะอาด เพราะอาจจะทำให้เราลื่นล้มจนเป็นสาเหตุหนึ่งของการการอุบัติเหตุได้
5. ย้ายเฟอร์นิเจอร์ เฟอร์นิเจอร์ที่กล่าวนี้หมายถึงเฟอร์นิเจอร์สนาม เช่น โต๊ะนั่งที่สนามหญ้า หรือเฟอร์นิเจอร์สนามที่ต้องตากแดด ตากฝนบ่อย ๆ ถึงแม้ว่าเฟอร์นิเจอร์เหล่านี้จะสามารถทนทานต่อแสงแดด สายฝน แต่เมื่ออุปกรณ์เหล่านี้เมื่อโดยฝน เปียกน้ำเป็นเวลานาน ๆ อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เสื่อมสภาพและเสียหายเร็วกว่ากำหนด ดังนั้นเพื่อป้องกันการเสียหายเราควรย้ายเฟอร์นิเจอร์เหล่านี้เพื่อหลบฝน หรืออาจจะหาผ้าใบมาคลุมเมื่อฝนตกก็ได้ แค่นี้เราก็สามารถยืดอายุการใช้งานของเฟอร์นิเจอร์กลางแจ้งของเราได้
6. การต่อเติมชายคากัดสาดการต่อเติมชายคาหรือกันสาดนั้นเราสามารถทำได้กับประตูบ้าน หน้าต่าง ผนังบ้าน หรือส่วนใดก็ตามที่ฝนสามารถสาดเข้าไปถึง เพราะนั่นจะเป็นสาเหตุของการเกิดตะไคร่น้ำ หรือคราบเหลืองที่เกิดจากน้ำฝน หรืออาจจะทำให้อุปกรณ์ภายในบ้านเราเสียหาย การต่อเติมกัดสาดถือว่าเป็นอีกประการหนึ่งที่มีความสำคัญเพื่อป้องกันการเสียหายที่จะตามมา
7. กิ่งไม้ใหญ่ กิ่งไม้ใหญ่หรือต้นไม้ที่อยู่ติดกับหลังคาบ้าน ตัวบ้าน อาจเป็นปัญหาให้กับตัวบ้านของเรา เมื่อเกิดพายุ ลมแรง กิ่งไม้เหล่านี้อาจจะหัก หรือโค่นล้มลงมาทับหรือฟาดกับตัวบ้านจนเกิดความเสียหายได้ ฉะนั้นเราควร ตัด ทอน กิ่งไม้เหล่านั้นไม่ให้เกิดปัญหาเมื่อมีลมพายุ เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับบ้าน
8. การคว่ำภาชนะที่ขังน้ำฝน สิ่งสุดท้ายที่เราต้องตรวจสอบคือ ภาชนะที่ทำให้น้ำขัง เช่น กระถางต้นไม้ที่ไม่ใช้ ยางรถยนต์เก่า เราควรที่จะตรวจสอบรอบ ๆ บ้าน ว่ามีภาชนะที่เราไม่ใช้แต่มีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการขังของน้ำ ที่จะเป็นแหล่งการเพาะพันธุ์ของยุงลายได้ และจัดการคว่ำให้หมด
นี่เป็นเพียงตัวอย่างการจัดการบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มิตรผลโมเดิร์นฟาร์มนำมาฝากในวันนี้ค่ะ มิตรชาวไร่สามารถนำไปปรับใช้กับบ้านของท่านได้ตามความเหมาะสมนะคะ ต่อไปนี้ไม่ว่าพายุฝนจะโหมกระหน่ำแค่ไหน ก็ไม่สามารถทำอะไรบ้านเราได้อีกต่อไปค่ะ