จั่วหัวไว้ซะขนาดนี้ ไม่เข้ามาอ่านไม่ได้แล้วค่ะ เพราะภาพลักษณ์ของน้ำตาล ถ้านอกจากให้ความหวานแล้ว นึกไม่ออกเลยจริง ๆ ว่าสรรพคุณอย่างอื่นของนางมีอะไรอีกบ้าง

ว่ากันในทางวิชาการ น้ำตาล (Sugar) คือ สารประกอบคาร์โบไฮเดรตประเภทโมโนแซ็กคาไรด์ (monosaccharide) และไดแซ็กคาไรด์ (disaccharide) ซึ่งมีรสหวาน โดยทั่วไปจะได้มาจากอ้อย มะพร้าว และมักเรียกอาหารที่มีรสหวานว่าน้ำตาลแทบทั้งสิ้น เช่น ทำมาจากตาลจะเรียกว่าตาลโตนด ทำมาจากมะพร้าวจะเรียกว่าน้ำตาลมะพร้าว ทำมาจากงวงจากจะเรียกว่าน้ำตาลจาก ทำมาจากงบจะเรียกว่าน้ำตาลงบ ทำมาจากอ้อยแต่ยังไม่ได้ทำเป็นน้ำตาลทรายจะเรียกว่าน้ำตาลทรายดิบ ถ้านำมาทำเป็นเม็ดจะเรียกว่าน้ำตาลทราย หรือถ้านำมาทำเป็นก้อนแข็งคล้ายกรวดจะเรียกว่าน้ำตาลกรวด ฯลฯ

น้ำตาล เป็นเครื่องปรุงรสทั้งอาหารคาว อาหารหวาน ขนม นม เนย ของคนทั่วโลก ถ้าจะให้ไปสืบว่าใครเป็นคนต้นคิดให้นำน้ำตาลมาปรุงอาหาร คงต้องรื้อประวัติศาสตร์กันอีกนานโข เอาเป็นว่าเรามาสนใจที่สรรพคุณของน้ำตาลกันดีกว่า ที่บอกว่าไม่ได้มีดีแค่ความหวาน แล้วน้ำตาลดียังไง

สรรพคุณเพียงไม่กี่ข้อนี้ คงไม่น่าเกลียดถ้าจะสรุปว่า น้ำตาลเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อชีวิตมาก เนื่องจากการทำงานของอวัยวะภายในร่างกายและเนื้อเยื่อต่าง ๆ ของร่างกาย ก็ล้วนแล้วแต่ต้องใช้พลังงานจากน้ำตาล นอกจากนี้การหายใจ การขับปัสสาวะ การไหลเวียน การย่อยอาหารก็ล้วนแล้วแต่ต้องการความร้อนจากน้ำตาลแทบทั้งสิ้น หรือแม้แต่ตั้งแต่การคลอดจากครรภ์มารดา ในการดำรงชีวิตเราจะขาดน้ำตาลไม่ได้ แม้อาหารที่จำเป็นของทารกก็ยังเป็นน้ำนมที่มีน้ำตาลผสมอยู่ สรุปก็คือ พลังงานในการเคลื่อนไหวของมนุษย์ 70% มาจากน้ำตาล ถ้าขาดน้ำตาลมนุษย์ก็จะไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้นั่นเอง

ที่มาข้อมูล-ภาพ

https://medthai.com/

ภาพโดย Tafilah Yusof จาก Pixabay