แม้ฤดูหนาวในบ้านเราจะไม่หนาวจัดเหมือนอีกหลายประเทศทั่วโลก แต่ประชากรที่เคยชินกับสภาพอากาศร้อนมาเกือบตลอดทั้งปี เมื่อเจอลมหนาวมาสักวูบสองวูบ ร่างกายบางคนอาจจะปรับตัวไม่ทัน ทำให้เป็นหวัดหรือไม่สบายได้ง่าย หลากสไตล์มิตรชาวไร่มองว่าบางอาการเจ็บป่วยอาจจะไม่ต้องพึ่งพายาปฏิชีวนะเสมอไป พืชผักสมุนไพรในรั้วในสวนบ้านเราก็สามารถบรรเทาอาการที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่หนาวเย็น เพิ่มความอบอุ่นให้แก่ร่างกายได้
ไปติดตามกันค่ะว่าตัวอย่างสมุนไพรเพิ่มความอบอุ่นร่างกายที่หาง่าย ๆ ในบ้านเรามีอะไรบ้าง
กะเพราเป็นผักสวนครัวกลิ่นหอม มีรสเผ็ดร้อนในตัว มีกลิ่นฉุนที่ดมแล้วโล่งไปทั้งจมูกและคอ อีกทั้งกะเพรายังเป็นผักที่หาง่าย ราคาถูก ทำเมนูกะเพราสิ้นคิดก็ดี ใส่ใบกะเพราลงในต้มยำ ต้มแซ่บก็หอมอร่อย ที่สำคัญใบกะเพรานี่แหละค่ะที่จะช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายจากฤทธิ์ร้อนในตัวใบกะเพราเอง
ยอดมะขามมีรสเปรี้ยวที่พอเหมาะ ยิ่งหากนำมาต้มยำ ใส่พริก ใส่ข่าลงไปด้วย ก็จะมีความกลมกล่อมและมีประโยชน์ช่วยคลายหนาวได้มาก เนื่องจากรสเปรี้ยวที่พอเหมาะจะช่วยปรับสมดุลของธาตุทั้งสี่ในร่างกาย เพิ่มการไหลเวียนของเลือดช่วยให้รู้สึกอุ่นจากภายใน อีกทั้งยอดมะขามยังมีคุณสมบัติช่วยบรรเทาเสมหะในลำคอด้วยนะคะ และมีวิตามินซีสูงจึงช่วยเสริมภูมิต้านทานป้องกันโรคหวัดได้ ดังนั้นใครที่หนาวจนไม่ไหวจะเคลียร์ ลองกินเมนูแกงเลียงยอดมะขาม หรือต้มยำไก่ยอดมะขามก็ได้
ผักกระเจี๊ยบหรือส่วนใบของกระเจี๊ยบแดงมีรสเปรี้ยวที่พอเหมาะต่อการปรับสมดุลธาตุทั้งสี่ในร่างกาย ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตได้เช่นกัน จึงช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายได้ เพราะเลือดลมไหลเวียนอย่างสะดวกมากขึ้นนั่นเอง โดยสมัยโบราณมักจะนำใบกระเจี๊ยบมาต้มจิ้มน้ำพริกกินเป็นอาหาร หรือทำเมนูแกงส้มผักกระเจี๊ยบก็ได้รสชาติที่ดี ซดน้ำแกงแล้วคล่องคอ ช่วยขับเสมหะ ลดอาการไอได้อีกต่างหาก
ผักพื้นบ้านอย่างมะระที่มีรสขมจัด ก็เป็นตำรับอาหารคลายหนาวมาตั้งแต่สมัยโบราณเช่นกันค่ะ เนื่องจากมะระมีทั้งรสขมและรสเปรี้ยว ช่วยให้ธาตุทั้งสี่ในร่างกายมีความสมดุล ยิ่งถ้าได้ซดต้มมะระร้อน ๆ ความอบอุ่นก็จะเพิ่มขึ้นทันทีในร่างกายเราเลยล่ะค่ะ
สะเดาก็เป็นผักที่มีรสขมผสมรสเปรี้ยว มีสรรพคุณช่วยเสริมธาตุในร่างกายให้แข็งแรง ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแกร่ง มีภูมิต้านทานต่ออากาศหนาวและโรคหน้าหนาวได้เป็นอย่างดี แถมสะเดายังเป็นผักที่ต้มกินกับน้ำปลาหวาน คู่กับปลาดุกย่าง เลอค่า แก้หนาวพร้อมความอร่อย
พริกมีความเผ็ดร้อนจากสารแคปไซซิน ซึ่งมีสรรพคุณช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต และยังช่วยบรรเทาอาการหนาวชาบริเวณปลายมือ-ปลายเท้าได้ด้วยล่ะ ซึ่งวิธีการกินพริกแก้หนาวแนะนำให้กินเมนูที่มีพริกเป็นส่วนประกอบค่ะ เช่น ต้มยำ ลาบ ส้มตำ หรือต้มแซ่บ เป็นต้น
พริกไทยจัดเป็นเครื่องเทศและสมุนไพรที่มีรสร้อน จึงช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายได้อย่างง่ายดาย โดยสามารถกินทั้งพริกไทยป่น หรือพริกไทยสดก็ได้ โดยถ้าเป็นพริกไทยป่นควรใช้ประมาณครึ่งช้อนชาต่อหนึ่งมื้ออาหาร ผสมลงไปในอาหารแต่ละมื้อ จะช่วยให้ร่างกายมีภูมิต้านทานต่อความหนาว เกิดความอบอุ่นภายในร่างกายให้หายหนาวสั่น
ขิงมีฤทธิ์ร้อน อีกทั้งสารเคอร์คูมินในขิงยังช่วยลดอาการอักเสบ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง แก้ไข้หวัด บรรเทาอาการไอ ช่วยขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อได้อีกด้วย และในช่วงอากาศหนาว ๆ แบบนี้ ก็สามารถนำขิงมารับประทานได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะนำไปชงดื่มเป็นชาร้อน ๆ จะเติมในอาหารที่รับประทาน ก็ล้วนแต่ช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายได้ทั้งนั้นเลย
ข่าเป็นสมุนไพรที่มีรสร้อนเหมือนขิง มีสรรพคุณช่วยแก้ไอ แก้หวัด ลดน้ำมูก แก้หอบหืด จึงเหมาะมากที่จะกินข่าในหน้าหนาว เพราะไม่เพียงแต่ช่วยคลายหนาวได้เท่านั้น แต่ข่ายังมีสรรพคุณบรรเทาอาการหวัด คัดจมูก น้ำมูกไหลได้อีกด้วย
กระชายเป็นสมุนไพรที่ให้รสเผ็ดร้อน เมื่อทานไปแล้วสามารถทำให้อุณหภูมิในร่างกายของเราสูงขึ้นได้ ดังนั้นถ้าต้องการให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น จึงควรรับประทานอาหารที่ช่วยเพิ่มอุณหภูมิให้ร่างกาย ซึ่งกระชายถือเป็นทางเลือกที่ดีทีเดียว แถมยังทำได้หลายเมนูด้วย
นอกจากสมุนไพรดังกล่าวข้างต้นแล้ว การเลือกรับประทานผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง ยังช่วยป้องกันโรคหวัดได้ในระดับหนึ่ง และการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ยังเป็นอีกวิธีดูแลร่างกายให้สมบูรณ์แข็งแรง และห่างไกลโรคภัยได้ดีอีกด้วย
ที่มาข้อมูล-ภาพ