ดินทรายซึ่งเป็นดินที่ไม่เหมาะแก่การเจริญเติบโตของพืช เพราะไม่อุ้มน้ำ มีช่องว่างในดินมาก เมื่อฝนตกน้ำฝนก็ไหลผ่านดินไปอย่างรวดเร็ว หรือในบางพื้นที่ ดินทรายมีขนาดเล็ก ละเอียด จนเกิดการแน่นทึบของดิน รากของพืชยากที่จะชอนไชอาหาร อีกทั้งเป็นดินที่ดูดซับธาตุอาหารได้น้อย เกิดการชะล้างพังทลายได้ง่ายมาก ซึ่งไม่เหมาะแก่การเจริญเติบโตของพืชอย่างมาก
เมื่อมิตรชาวไร่มีที่ดินในการทำเกษตรเป็นดินทราย มิตรผลโมเดิร์นฟาร์มมีแนวทางปรับปรุงดินทรายให้เหมาะแก่การเพาะปลูกมาฝากค่ะ
แนวทางการปรับปรุงดินทรายให้เหมาะแก่การเพาะปลูก
แนะนำให้ใช้เศษซากใบอ้อยจากการตัดอ้อยสด โดยการพรวนคลุกเคล้าเศษซากใบอ้อยซึ่งมีปริมาณ 1-2 ตันต่อไร่ ลงไปในดินจนมีการย่อยสลายแล้ว จะทำให้ได้ธาตุไนโตรเจนประมาณ 4.9-9.8 กิโลกรัมต่อไร่ ฟอสฟอรัสประมาณ 2.1-4.2 กิโลกรัมต่อไร่และโพแทสเซียมประมาณ 5.8-11.6 กิโลกรัมต่อไร่
นอกจากนี้การใช้กากตะกอนหม้อกรองจากโรงงานน้ำตาล ยังช่วยปรับปรุงดินทรายได้ หากใส่กากตะกอนหม้อกรองในอัตรา 18 - 20 ตันต่อไร่จะทำให้ได้ธาตุไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และ โพแทสเซียมที่เกือบจะพอเพียงกับปริมาณที่อ้อยต้องการสร้างผลผลิตที่ 12 ตันต่อไร่ ซึ่งหากต้องการให้อ้อยมีคุณภาพความหวานสูงให้ใส่เพียงปุ๋ยพอแทสเซียมเพิ่มเติมอีก 18 - 19.2 กิโลกรัมต่อไร่
อีกวิธีคือการปลูกพืชตระกูลถั่วแล้วไถกลบเป็นปุ๋ยพืชสด เช่น ถั่วพุ่ม ถั่วเขียว ถั่วพร้า ปอเทือง เป็นต้น ร่วมกับการใช้ปุ๋ยวิทยาศาสตร์ ใช้ปุ๋ยเคมีอัตรา 12-12-15 (N-P 2 O5 -K 2 O) กิโลกรัมต่อไร่ หรือ 15-10-10 อัตรา 70-100 (N-P 2 O5 -K 2 O) กิโลกรัมต่อไร่ หรือ 13-13-21หรือ 15-15-15 หรือ 16-16-8 อัตรา 25 กิโลกรัมต่อไร่ โดยใส่รองพื้นหลังการเปิดร่อง ก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยปรับสภาพดินทรายให้เหมาะแก่การปลูกอ้อยได้เช่นเดียวกันค่ะ
พี่น้องมิตรชาวไร่ลองตรวจสอบสภาพพื้นที่ของตนเองนะคะว่าในพื้นที่ของเราเป็นดินประเภทไหนเพื่อจะได้ปรับปรุงดินได้อย่างเหมาะสม อ้อยของเราจะได้เจริญงอกงามค่ะ
ที่มาข้อมูล-ภาพ
หมอดิน : วารสารมิตรชาวไร่