สวัสดีค่ะมิตรชาวไร่ ผ่านมาเกือบครึ่งปี 2022 แล้วนะคะ มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาอย่างมากมาย หลายสิ่งที่เราผ่านหูผ่านตามาบ้าง แต่ก็ยังมีอีกหลายนวัตกรรมที่เราอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนว่า “มีเรื่องน่าทึ่งแบบนี้อยู่ด้วยเหรอ” ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ทำให้เราว้าวได้ตลอดเวลา ขึ้นชื่อว่าเทคโนโลยี เมื่อเกิดขึ้นแล้ว มักถูกพัฒนาต่อยอดให้เจ๋งขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของมนุษย์

เทคโนโลยีสมัยใหม่วันนี้มี 9 นวัตกรรมสมัยใหม่จากทั่วโลกในปี 2022 ที่เมื่อเห็นแล้ว เชื่อว่ามิตรชาวไร่ต้อง ว้าว! อย่างแน่นอน

1.BMW iX Flow

ในประเทศไทย เรามักเห็นสติ๊กเกอร์ติดหลังรถ “รถคันนี้สี….” อยู่เสมอ บางคนติดเพื่อความเป็นสิริมงคล เพราะรถสีที่ถูกโฉลกไม่มีตามที่เราต้องการ เลยต้องแก้เคล็ดกันไปตามสไตล์ Thailand only แต่ต่างประเทศเขาล้ำค่ะ ดูอย่างผู้ผลิตรถยนต์พรีเมียมแบรนด์ BMW จากเยอรมนี เขาโชว์ความล้ำให้เราทึ่งด้วยการเปลี่ยนสีรถจากขาวเป็นดำ (หรือดำเป็นขาว) ได้ด้วยการกดปุ่มเพียงปุ่มเดียว เทคโนโลยีนี้คือ E Ink ซึ่งนำไมโครแคปซูลขนาดบางเท่าเส้นผมมาเคลือบให้ทั่วตัวถังรถ โดยไมโครแคปซูลนั้นมีประจุลบ (สีขาว) และประจุบวก (สีดำ) เมื่อกดปุ่ม รถก็จะเปลี่ยนสีได้ตามต้องการ โดยสามารถเปลี่ยนสีหมดทั้งคันทันทีหรือจะเปลี่ยนแบบ Animated เคลื่อนจากด้านหน้าไปด้านหลังก็ได้ การเปลี่ยนสีของรถโดยใช้เทคโนโลยี E Ink นอกจากจะช่วยให้เจ้าของรถสามารถเปลี่ยนโฉมรถได้ตามอารมณ์แล้ว มันยังสามารถช่วยเรื่องระบบระบายอากาศภายในรถด้วย แว่ว ๆ ว่าในอนาคต BMW ยังจะพัฒนา E Ink ให้สามารถเปลี่ยนเป็นสีอื่น ๆ นอกจากขาวดำเพิ่มอีกด้วย

2.Samsung The Freestyle

ซัมซุงออกโปรเจกเตอร์แบบพกพาที่จะทำให้คุณดูหนังหรือซีรี่ส์โปรดได้ทุกที่ ตั้งแต่ห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือแม้กระทั่งตอนไปเที่ยวต่างจังหวัด ด้วยขนาดเล็กกะทัดรัดและน้ำหนักเบา จึงสามารถพกใส่กระเป๋าเป้ติดตัวไปได้ทุกที่ ติดตั้งได้ง่ายด้วยขาตั้งแบบ 180 องศา แถมมีระบบออโต้โฟกัสและฟังก์ชันปรับแต่งภาพให้อัตโนมัติ ดูหนังได้เต็มตาและได้อรรถรสด้วยความละเอียดภาพ Full HD 1080p บนจอ 30 นิ้ว ไปจนถึงใหญ่สุด 100 นิ้ว ระบบเสียงรอบทิศทาง 360 องศา สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้อย่างรวดเร็วผ่านบลูทูธ 

3. Labrador Systems

นวัตกรรมนี้จะเรียกว่า Butler ส่วนตัวก็ว่าได้ เพราะหุ่นยนต์ Home Robot ออกแบบมาสำหรับให้ความช่วยเหลือคนชรา, ผู้พิการ หรือคนที่มีปัญหาด้านสุขภาพ เจ้าหุ่นยนต์นี้จะทำให้ชีวิตของคนในบ้านง่ายและสะดวกขึ้นโดยเฉพาะเรื่องของการหยิบจับหรือเคลื่อนย้ายสิ่งของ การใช้งานทำได้ง่าย ๆ เพียงกำหนดจุด A ไปยังจุด B (เช่นให้ช่วยถืออาหารจากห้องครัวมาที่โซฟาในห้องนั่งเล่น) เมื่อได้รับคำสั่ง (ทำได้ทั้งการสั่งจากแอปพลิเคชันหรือสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Alexa) เจ้าหุ่นยนต์นี้ก็จะออกเดินไปยังจุดหมายโดยเราไม่ต้องกังวลว่าจะชนสิ่งกีดขวาง เนื่องจากมีเซนเซอร์คุณภาพสูงในตัว มันสามารถรับน้ำหนักได้สูงสุดราว 11 กิโลกรัมเลยทีเดียว

4. Panasonic Zen Rider

เมื่อโลกกำลังเผชิญปัญหาภาวะโลกร้อน Panasonic เป็นหนึ่งในหลายบริษัทผู้นำทางเทคโนโลยีที่เล็งเห็นความสำคัญของปัญหานี้ Zen Rider คือจักรยานไฟฟ้าที่จะช่วยลดปริมาณคาร์บอนที่เกิดจากการใช้รถยนต์ลง เจ้าจักรยานไฟฟ้านี้ได้รับมาตรฐานความปลอดภัย UL 2849 จาก UL องค์กรไม่แสวงหากำไรที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องการพัฒนามาตรฐานการขับขี่อย่างปลอดภัยในสหรัฐอเมริกา Zen Rider มาในรูปลักษณ์เรียบง่าย เหมาะกับครอบครัว (เมื่อปีที่แล้วตลาดจักรยานไฟฟ้าในสหรัฐฯ โตขึ้นถึง 240%) มาพร้อมแบตเตอรี่ในตัวและระบบช่วยปั่นความเร็ว 15 ไมล์ต่อชั่วโมง

5. OrCam MyEye Pro

MyEye Pro เป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยให้ชีวิตของผู้พิการทางสายตาง่ายขึ้น เพราะมันสามารถบอกสิ่งที่คุณเห็นตรงหน้าได้ เช่น คน สัตว์ สิ่งของต่างๆ รวมไปถึงสามารถอ่านข้อความได้ ไม่ว่าจะเป็นป้าย, หนังสือ ฯลฯ ฟังก์ชัน Smart Reading สามารถอ่านข้อความสำคัญบางอย่าง เช่น ยอดเงิน, หมายเลขโทรศัพท์, พาดหัวข่าว ฯลฯ ได้รวดเร็วเป็นพิเศษ โดยคุณสามารถได้ยินข้อความผ่านลำโพงในตัวหรือเชื่อมต่อไร้สาย (บลูทูธ) กับหูฟังที่คุณมีอยู่แล้วก็ได้ 

6. Chevrolet Silverado EV

ปีนี้เราได้เห็นรถกระบะไฟฟ้ากันแล้ว เจ้า Silverado EV จากเมืองลุงแซมนี้หน้าตาดุดัน ปราดเปรียว มาพร้อมกับสมรรถนะอันทรงพลัง ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ กำลัง 664 แรงม้า แรงบิด 1,058 นิวตันที่สามารถลากของความจุ 4.5 ตันได้สบาย ส่วนแบตเตอรี่นั้นขนาด 200 kWh ที่ทาง GM อ้างว่าขับยาวถึง 640 กิโลเมตรได้สบายๆ แถมยังมีระบบ Fast Charging ที่ชาร์จเพียง 10 นาทีก็สามารถขับได้ไกลถึง 160 กิโลเมตร

7. Cambridge Audio Alva TT V2

เครื่องเล่นแผ่นเสียงที่นำเอาความคลาสสิกมาบรรจบกับเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของนักฟังเพลงยุคปัจจุบัน Alva TT V2 มาพร้อมกับบลูทูธ aptX HD นั่นหมายความว่าคุณสามารถฟังเพลงจากศิลปินคนโปรดในความละเอียดแบบ High-Resolution 24-bit/48kHz ได้บนหูฟังไร้สายหรือชุดเครื่องเสียงไร้สายได้แล้ว อย่างไรก็ตาม หากคุณอยากฟังเพลงกับลำโพงที่บ้าน เครื่องเล่นแผ่นเสียงรุ่นนี้ก็มี Built-in Phono Stage ที่ให้คุณเชื่อมต่อกับ Hi-Fi System ได้อย่างสะดวกสบายเช่นกัน

8. ASUS Zenbook 17 Fold OLED

ความล้ำของ Zenbook 17 Fold คือสามารถเป็นได้ทั้งพีซี, แล็ปท็อป, แท็บเล็ต รวมถึงหนังสือ ถ้าคุณอยากใช้งานแท็บเล็ตจอใหญ่ คุณก็จะได้จอ OLED ระบบสัมผัสคุณภาพสูงขนาด 17 นิ้ว แต่เมื่อพับลงแล้วนำคีย์บอร์ดมาวางบนตัวเครื่อง คุณก็จะได้แล็ปท็อปที่มีจอขนาด 12.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD ที่มี​ CPU ทรงพลังจาก Intel (i7 12th Gen) พร้อมกับชุดลำโพงจาก Harman Kardon ที่รองรับระบบเสียง Dolby Atmos รวมถึงกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล สำหรับการประชุมออนไลน์และระบบปลดล็อกด้วยใบหน้า

9. Sony BRAVIA A95K Series

ปีนี้วงการทีวีล้ำขึ้นไปอีกด้วยเทคโนโลยีใหม่ QD-OLED TV ที่สามารถแก้ไขจุดด้อยของ OLED TV ธรรมดาที่ไม่สามารถให้รายละเอียดและความอิ่มตัวของสีในบริเวณภาพที่สว่างมากๆ ได้ BRAVIA A95K ใช้จอ QD-OLED ซึ่งนอกจากจะให้ภาพที่มีความสมจริงและแก้ปัญหาดังกล่าวได้แล้ว ยังมีมุมมองการรับชมภาพที่กว้างกว่าเดิมด้วย ดังนั้นไม่ว่าคุณจะนั่งอยู่ฝั่งซ้ายหรือขวาของจอก็จะสามารถรับชมภาพได้ดีไม่ต่างจากนั่งชมตรงกลางแล้ว ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ ทีวีรุ่นนี้มาพร้อมกับกล้องเว็บแคมขั้วต่อ HDMI 2.1 ระบบปฎิบัติการ Google TV มี 2 ขนาดให้เลือกคือ 55 และ 65 นิ้ว

ไม่น่าเชื่อว่าเพียงแค่ 9 นวัตกรรมข้างต้นนี้ ยังทำให้เรารู้สึกทึ่ง อึ้ง ไปกับความคิดสร้างสรรค์และเทคโนโลยีที่สามารถพาเราก้าวไปสู่ความทันสมัยได้อย่างต่อเนื่อง แม้บางอย่างเราอาจตามไม่ทัน แต่แค่การเรียนรู้ศึกษาไว้ ก็เป็นส่วนหนึ่งในการเรียนรู้โลกได้อีกขั้นค่ะ

ที่มา

https://thestandard.co/