- สถานการณ์อ้อยและน้ำตาล
- ส., 10 ต.ค. 63
มิตรชาวไร่ทุกท่านคะ อย่างที่ทราบกันดีว่าผลผลิตอ้อยปี 64-65 เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว เนื่องจากราคาน้ำตาลโลกที่พุ่งสูงขึ้นและปีที่แล้วน้ำฝนมีปริมาณเพียงพอ ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกอ้อยยิ้มอย่างมีความสุขหลังจากเหน็ดเหนื่อยมาตลอดฤดูกาล
ล่าสุดนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ได้ออกมาเปิดเผยอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับผลผลิตอ้อยให้ชาวไร่ชื่นใจว่า ผลผลิตอ้อยเข้าหีบประจำฤดูการผลิตปี 2564/65 ของโรงงานน้ำตาลทั้ง 57 โรง ตั้งแต่วันที่
7 ธ.ค. 64 จนถึงวันที่ 7 พ.ค. 65 รวมระยะเวลาหีบอ้อย 152 วัน มีปริมาณอ้อยเข้าหีบทั่วประเทศที่ 92.07 ล้านตัน แยกเป็นอ้อยสด จำนวน 66.95 ล้านตัน คิดเป็น 72.72% และอ้อยไฟไหม้ จำนวน 25.12 ล้านตัน คิดเป็น 27.28% การผลิตน้ำตาลต่อตันอ้อยโดยเฉลี่ย (yield) อยู่ที่ 110.08 กิโลกรัมต่อตันอ้อย และมีค่าความหวานอ้อยเฉลี่ยอยู่ที่ 12.71 C.C.S.
สำหรับปริมาณผลผลิตอ้อยรวม เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 25.41 ล้านตัน คิดเป็น 38.12% สาเหตุมาจากปริมาณน้ำฝนเพิ่มขึ้นและราคาน้ำตาลโลกสูงขึ้น ส่วนแนวทางการช่วยเหลือต้นทุนการตัดอ้อยสด อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป โดยการช่วยเหลือต้นทุนการตัดอ้อยสดนั้น นอกจากจะเป็นการช่วยแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 แล้ว ยังทำให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยหันมาตัดอ้อยสดส่งโรงงานมากขึ้น มีรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ด้านนายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) กล่าวว่า จากปัญหาอ้อยสดสกปรก ที่เกิดจากการเก็บเกี่ยวโดยไม่มีการตัดยอด และไม่มีการสางใบอ้อย กลายเป็นอ้อยมีสิ่งปนเปื้อน และอ้อยยอดยาว ที่เป็นสาเหตุทำให้การผลิตน้ำตาลต่อตันอ้อย (yield) ลดลงนั้น กระทรวงอุตสาหกรรมจะวางแนวทางในการแก้ปัญหาต่อไป
ด้านนายเอกภัทร วังสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย กล่าวว่า ปริมาณตัวเลขอ้อยไฟไหม้ในฤดูการผลิตปี 2564/65 ยังไม่เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ คือ ปริมาณอ้อยไฟไหม้เข้าหีบไม่เกิน 10% ของปริมาณอ้อยทั้งหมด สาเหตุมาจากฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้อ้อยล้มเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นอุปสรรคในการตัดอ้อยสด
ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ได้วางแนวทางบริหารจัดการการแก้ไขปัญหาอ้อยไฟไหม้ให้เข้มข้นยิ่งขึ้น เช่น จัดหาเครื่องสางใบอ้อยมาให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยยืมเพื่อสางใบอ้อย ส่งเสริมการรับซื้อใบอ้อยเพื่อเพิ่มรายได้ และลดการเผาใบอ้อย การขอรับการสนับสนุนเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลเพื่อลดต้นทุนการตัดอ้อยสด การสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยกู้เพื่อซื้อเครื่องจักรกลการเกษตร รวมทั้งการลงนามในบันทึกความร่วมมือการแก้ไขปัญหาอ้อยไฟไหม้
ด้านรัฐบาลเอง ยังได้กำหนดนโยบายชัดเจนที่จะไม่ส่งเสริมอ้อยไฟไหม้ในการลดฝุ่น PM 2.5 ประกอบกับโรงงานน้ำตาลทราย ได้เข้าไปส่งเสริมให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดมากขึ้น จึงคาดว่าฤดูการผลิตปีหน้า ปริมาณอ้อยสดจะมีทิศทางเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลทำให้ผลผลิตน้ำตาลต่อตันอ้อยสูงขึ้น
ดูจากสถานการณ์ราคาน้ำตาลของโลกช่วงนี้ยังสูงต่อเนื่อง ประกอบกับฝนที่ตกตามฤดูกาล หวังว่าปีนี้ผลผลิตอ้อยของมิตรชาวไร่จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอีกปีนะคะ
ที่มาข้อมูล