ปัจจุบันการส่งเสริมให้เกษตรกรเป็นสมาร์ทฟาร์มเมอร์ (Smart Farmer) โดยการสนับสนุนให้ทำการเกษตรแบบสมัยใหม่ เริ่มมีความสำคัญมากขึ้นในประเทศไทย จะเห็นว่ามีการพัฒนาและคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ ในการเกษตรให้ใช้งานได้จริงเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ทั้งผ่านแอปพลิเคชั่น หรือในรูปแบบอุปกรณ์ หรือเครื่องจักรกลการเกษตรสมัยใหม่ โดยให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการพัฒนาที่เน้นรูปแบบเทคโนโลยีที่เข้ามาแก้ปัญหาแรงงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ซึ่งมิตรชาวไร่จะเห็นว่ารูปแบบเทคโนโลยีการเกษตรมักมาในรูปแบบ Internet of Things (IoT) ซึ่งใช้ระบบอินเตอร์เน็ตเชื่อมอุปกรณ์และเครื่องมือต่าง ๆ เช่น คอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือ เข้าไว้กับอุปกรณ์ต่าง ๆ โดยเครื่องมือต่าง ๆ นั้น จะสามารถเชื่อมโยงและสื่อสารกันได้โดยผ่านระบบอินเตอร์เน็ต

แน่นอนว่าเครื่องมือที่เหมาะสมกับการใช้งาน และเกษตรกรสามารถใช้งานและเรียนรู้ได้ง่ายที่สุดน่าจะเป็น สมาร์ทโฟน หรือมือถือในปัจจุบันที่สามารถเชื่อมต่อและใช้งานอินเตอร์เน็ตได้ โดยการเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อรับคำสั่งและทำงานผ่านระบบเซ็นเซอร์หรือระบบปฏิบัติการอื่น ๆ ได้

ที่ผ่านมาจะเห็นว่ามีการประยุกต์ใช้โทรศัพท์มือถือ หรือสมาร์ทโฟน โดยมีการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตทั้ง แบบ LAN และ WIFI เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งานและการเข้าถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น สั่ง ปิด-เปิด ปั้มน้ำสำหรับรดแปลงปลูกพืช ตามเวลาที่ต้องการ การกำหนดให้ส่งข้อความแจ้งเตือนว่าได้ปั้มน้ำเรียบร้อยแล้วผ่านทาง SMS การตรวจสอบความชื้นของดินถ้าหากความชื้นต่ำ เราสามารถสร้างเงื่อนไขการทำงานได้โดยการสั่งการให้ปั้มทำงาน เมื่อดินมีความชื้นต่ำ ตามระดับที่เรากำหนดไว้ เป็นต้น

อีกหนึ่งการใช้งานสมาร์ทโฟนที่เราเห็นและคุ้นเคยกันคือ การสั่งงานและควบคุมโดรนสำหรับให้ปุ๋ยแก่พืชเกษตรแปลงใหญ่ อย่างไร่อ้อย ไร่มัน นาข้าว เป็นต้น ซึ่งจะเห็นเทคโนโลยีเกษตรถูกพัฒนาไปอย่างมาก ด้วยการนำระบบดิจิทัลเข้ามาใช้งานได้อย่างเหมาะสมและลงตัว ในอนาคตสมาร์ทโฟนจะไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือสื่อสารที่สำคัญ แต่จะกลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คนใช้เทคโนโลยีได้ในอาชีพของตนเอง สามารถทำงานแทนเราได้ ช่วยลดเวลาและลดขั้นตอนการทำงานได้อย่างดี อยู่ที่ว่าเราจะนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับงานและอาชีพของเราได้หรือไม่นั่นเองค่ะ

ที่มาข้อมูล-ภาพ

https://stri.cmu.ac.th/

https://www.bangkokbanksme.com/

https://www.nstda.or.th/