หน้าแรก

สวัสดีค่ะมิตรชาวไร่ที่น่ารักทุกท่าน หากพูดถึงเครื่องมือที่จะช่วยยกระดับให้ภาคเกษตรกรรมเข้าสู่เทคโนโลยีเกษตรเต็มรูปแบบ ต้องอาศัยความเป็นดิจิตัลให้เข้ามีส่วนร่วมในการทำเกษตรให้มากที่สุด เพื่อให้แต่ละกิจกรรมของเกษตรกรรวดเร็ว ประหยัดเวลา แต่คุ้มค่าต่อผลลัพธ์ให้ได้มากที่สุดนั่นเองค่ะ

ซึ่งปัจจุบัน Digital technology ใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมายรายวัน แล้วตัวไหนบ้างที่จะสามารถเข้ามามีบทบาทสำคัญในภาคเกษตรได้แบบยั่งยืน

วันนี้มิตรผลโมเดิร์นฟาร์ม มีตัวอย่าง 6 Digital technology ที่จะช่วยยกระดับการทำเกษตร ให้ทันสมัยและรวดเร็วยิ่งขึ้น จะมีอะไรบ้างนั้น ไปติดตามกันค่ะ

003.jpg

  1. เทคโนโลยีที่ใช้เก็บข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นการเก็บข้อมูลระยะใกล้จาก sensor ที่วัดสภาพดินและค่าต่าง ๆ ในแปลงเพาะปลูก การเก็บข้อมูลระยะกลางจากกล้องที่ติดกับโดรน และการเก็บข้อมูลระยะไกลจากภาพถ่ายดาวเทียมที่สามารถนำมาใช้ระบุสภาพพื้นที่เพาะปลูก ชนิดพืช สถานะการเจริญเติบโต และปัญหาต่าง ๆ ได้ละเอียดถึงระดับแปลงเพาะปลูกของเกษตรกร
  2. ข้อมูลขนาดใหญ่หรือ big data ที่สามารถสะท้อนรายละเอียดของสภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และการทำเกษตรในระดับแปลงและเกษตรกรทั้งในปัจจุบันและย้อนหลังไปในอดีตในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งจะทำให้เข้าใจปัญหาและความต้องการที่แตกต่างกันของเกษตรกรได้
  3. Internet of Things (IoT) ที่สามารถเชื่อมโยงการทำงานของเครื่องวัดและอุปกรณ์ทำการเกษตรต่าง ๆ เข้าด้วยกันผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตและสมาร์ทโฟน ทำให้สามารถสั่งงานการทำกิจกรรมการเกษตร เช่น รดน้ำและใส่ปุ๋ยตามเวลาและปริมาณที่กำหนดอย่างแม่นยำโดยไม่ต้องใช้คน และสามารถติดตามสภาวะและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในแปลงเพาะปลูกได้อย่างรวดเร็ว
  4. Mobile technology ที่ช่วยเชื่อมต่อเกษตรกรเข้ากับตลาด ผู้ขายปัจจัยการผลิต ผู้บริโภค เจ้าหน้าที่รัฐ รวมถึงระหว่างเกษตรกรด้วยกันเอง และช่วยให้เกษตรกรสามารถช่วยสร้างและเข้าถึงข้อมูลและความรู้ เช่น ราคา พยากรณ์อากาศ และวิธีการแก้ปัญหาโรคพืช ได้ง่ายและรวดเร็วขึ้นในต้นทุนที่ต่ำลง
  5. การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีทาง data analytics อย่าง machine learning และ artificial intelligence (AI) ซึ่งเมื่อนำมาใช้ร่วมกับ big data ในมิติต่าง ๆ จะสามารถช่วยหาแนวทางในการทำการเกษตรที่เหมาะสม แม่นยำและมีประสิทธิภาพสูงสุดต่อพื้นที่และเกษตรกรนั้น ๆ หรือ precision farming
  6. แพลตฟอร์ม ที่จะสามารถเชื่อมต่อข้อมูลจากผู้ให้บริการไปยังเกษตรกรผู้ใช้งาน และเชื่อมต่อผู้ใช้งานแต่ละประเภทเข้าด้วยกัน เช่น เกษตรกรกับผู้ซื้อผลผลิต ผู้ขายหรือให้เช่าปัจจัยการผลิต ภาครัฐ ผู้เชี่ยวชาญทางการเกษตร หรือกับเกษตรกรด้วยกัน ซึ่งสามารถส่งเสริม sharing economy ในรูปแบบต่าง ๆ ผ่านทั้ง internet และ mobile technology

004.jpg

มิตรชาวไร่จะเห็นว่า Digital Technology ทั้ง 6 ประเภทนี้ ถูกนำมาปรับใช้ในภาคเกษตรกรรมในหลากหลายมิติ ทั้งการกิจกรรมส่งเสริมการปลูกโดยตรง การเก็บข้อมูลของเกษตรกร การวางแผนผลิต ตลอดจนกระบวนการเก็บเกี่ยวและจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตร เพื่อยกระดับการเกษตรให้ทัดเทียมการพัฒนาด้านอื่น เพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าพร้อม ๆ กันทุกด้านนั่นเองค่ะ

ขอบคุณที่มาข้อมูล-ภาพ

https://www.pier.or.th/

https://www.salika.co/

 

ข่าวปักหมุด