มิตรชาวไร่ทุกท่านคะ น้ำเป็นปัจจัยสำคัญในการเจริญเติบโตของพืช แต่การให้น้ำที่มากหรือน้อยเกินไปล้วนส่งผลเสียต่อพืชของเรา วันนี้เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับผลกระทบของการให้น้ำที่ไม่เหมาะสม และวิธีการจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพกัน
เมื่อพืชขาดน้ำ ภัยเงียบที่คุกคามผลผลิต
การขาดน้ำในช่วงการเจริญเติบโตทางลำต้นและใบ ส่งผลร้ายแรงต่อพืชของเรา
- การเจริญเติบโตชะงักงัน พืชจะหยุดการเจริญเติบโต ทำให้ลำต้นแคระแกร็น ใบเล็กลง
- เหี่ยวแห้ง ในกรณีรุนแรง พืชอาจเหี่ยวแห้งและตายในที่สุด
- ระบบรากอ่อนแอ รากไม่สามารถเจริญเติบโตและดูดซึมธาตุอาหารได้อย่างเต็มที่
หากขาดน้ำในระยะออกดอกติดผล ผลกระทบจะยิ่งรุนแรง
- ดอกน้อยลง พืชจะผลิตดอกน้อยลง ส่งผลให้ผลผลิตลดลงอย่างมาก
- คุณภาพผลผลิตต่ำ ผลอาจมีขนาดเล็ก รูปทรงบิดเบี้ยว ไม่น่ารับประทาน
- เมล็ดลีบ เมล็ดอาจไม่สมบูรณ์ หรือไม่ติดเมล็ดเลย ซึ่งส่งผลต่อการขยายพันธุ์ในฤดูกาลถัดไป
เมื่อพืชได้รับน้ำมากเกินไป ภัยร้ายที่มองไม่เห็น
การให้น้ำมากเกินไปก็เป็นอันตรายต่อพืชไม่แพ้กัน
- ขาดออกซิเจน รากพืชต้องการออกซิเจนในการหายใจ เมื่อมีน้ำมากเกินไป ออกซิเจนในดินจะถูกแทนที่ด้วยน้ำ ทำให้รากขาดออกซิเจน
- ระบบรากอ่อนแอ รากไม่สามารถดูดซึมน้ำและธาตุอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- โรคระบาด สภาพแวดล้อมที่ชื้นแฉะเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค โดยเฉพาะเชื้อราและแบคทีเรีย
- รากเน่า น้ำที่ท่วมขังเป็นเวลานานจะทำให้รากเน่า ส่งผลให้พืชตายในที่สุด
สัญญาณที่บ่งบอกว่าพืชได้รับน้ำมากเกินไป
- ใบเหลือง ใบล่างจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลือง และค่อย ๆ กลายเป็นสีน้ำตาล
- ต้นเหี่ยว แม้ดินจะชื้น แต่พืชกลับมีอาการเหี่ยว เนื่องจากรากไม่สามารถดูดซึมน้ำได้
- กลิ่นเหม็น ดินที่ชื้นแฉะจะมีกลิ่นเหม็นอับ เนื่องจากการเน่าเสียของรากและจุลินทรีย์
- เชื้อราบนผิวดิน อาจสังเกตเห็นเชื้อราสีขาวหรือเทาบนผิวดิน
การจัดการน้ำอย่างเหมาะสมเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในการเพาะปลูก เมื่อเราเข้าใจความต้องการของพืชและผลกระทบของน้ำที่มากหรือน้อยเกินไป เราก็สามารถปรับวิธีการให้น้ำให้เหมาะสม ส่งผลให้พืชเจริญเติบโตอย่างแข็งแรง ให้ผลผลิตที่มีคุณภาพ และสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้กับเกษตรกรอย่างเรา ใด ๆ คือการสังเกตและเรียนรู้จากประสบการณ์เป็นสิ่งสำคัญ ขอให้มิตรชาวไร่ประสบความสำเร็จในการเพาะปลูก และมีผลผลิตที่อุดมสมบูรณ์ค่ะ
ที่มาข้อมูลจาก
https://www.doae.go.th/