หน้าแรก

มิตรชาวไร่ทุกท่านค่ะ เราทราบกันดีว่าดินเป็นรากฐานสำคัญของการเกษตร โดยเฉพาะสำหรับเรา ชาวไร่อ้อย ที่ต้องพึ่งพาความอุดมสมบูรณ์ของดินเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดี อ้อยเป็นพืชที่ดูดธาตุอาหารจากดินในปริมาณมาก และเก็บเกี่ยวได้หลายปีติดต่อกัน ดังนั้น การรู้จักและเข้าใจว่าดินของเรามีความอุดมสมบูรณ์มากน้อยแค่ไหน จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยให้เราจัดการดินได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ

สังเกตความอุดมสมบูรณ์ของดินได้จากอะไรบ้าง?

1. สังเกตจากสภาพทางกายภาพของดิน

  • สีของดิน: ดินที่มีสีเข้ม (น้ำตาลเข้มถึงดำ) มักมีอินทรียวัตถุสูง ซึ่งเป็นสัญญาณของความอุดมสมบูรณ์
  • โครงสร้างดิน: ดินที่ร่วนซุย จับตัวเป็นก้อนเล็กๆ เมื่อบีบและแตกออกง่ายๆ เมื่อกดเบาๆ แสดงว่ามีโครงสร้างดี
  • การระบายน้ำ: ดินที่น้ำซึมผ่านได้ดี ไม่แฉะเกินไปหรือแห้งเร็วเกินไป แสดงถึงการระบายน้ำที่เหมาะสม

2. สังเกตจากสิ่งมีชีวิตในดิน

  • ไส้เดือนดิน: หากพบไส้เดือนดินจำนวนมาก แสดงว่าดินมีความอุดมสมบูรณ์สูง
  • จุลินทรีย์: แม้มองไม่เห็น แต่ดินที่มีกลิ่นหอมเหมือนดินในป่า มักมีจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์จำนวนมาก
  • พืชที่ขึ้นเอง: วัชพืชบางชนิดบ่งบอกถึงสภาพดิน เช่น หญ้าตีนกา มักขึ้นในดินที่อุดมสมบูรณ์

3. สังเกตจากการเจริญเติบโตของพืช

อ้อยที่ปลูกในดินอุดมสมบูรณ์จะมีลำต้นใหญ่ ใบเขียวสด แตกกอดี รากแผ่กว้างและลึก ในทางกลับกัน อ้อยที่ปลูกในดินที่ไม่อุดมสมบูรณ์จะมีลำต้นเล็ก ใบเหลือง เจริญเติบโตช้า หรือแสดงอาการขาดธาตุอาหาร

ปัจจัยที่ช่วยให้ดินอุดมสมบูรณ์มีอะไรบ้าง?

อินทรียวัตถุในดิน
อินทรียวัตถุถือเป็นหัวใจสำคัญของความอุดมสมบูรณ์ เปรียบเสมือนคลังสมบัติของดิน เพราะช่วยปรับโครงสร้างดินให้ร่วนซุย กักเก็บน้ำและธาตุอาหาร และเป็นแหล่งอาหารของจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์

ธาตุอาหารที่เพียงพอและสมดุล
ดินอุดมสมบูรณ์ต้องมีธาตุอาหารครบถ้วนและสมดุล ทั้งธาตุอาหารหลัก (ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม) ธาตุอาหารรอง (แคลเซียม แมกนีเซียม กำมะถัน) และธาตุอาหารเสริม (เหล็ก สังกะสี ทองแดง เป็นต้น)

ค่าความเป็นกรด-ด่างที่เหมาะสม (pH)
อ้อยเจริญเติบโตได้ดีในดินที่มีค่า pH ประมาณ 5-7.0 หากดินเป็นกรดเกินไป (pH ต่ำกว่า 5.5) จะทำให้ธาตุอาหารบางชนิดละลายออกมามากเกินไป บางชนิดถูกตรึงไว้จนพืชใช้ไม่ได้ แต่หากดินเป็นด่างเกินไป (pH สูงกว่า 7.5) ธาตุอาหารบางชนิดจะตกตะกอน ทำให้พืชดูดใช้ไม่ได้

กิจกรรมของจุลินทรีย์ดิน
จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในดิน เช่น แบคทีเรีย เชื้อรา และโปรโตซัว มีบทบาทสำคัญในการย่อยสลายอินทรียวัตถุให้กลายเป็นธาตุอาหารที่พืชใช้ได้ นอกจากนี้ยังช่วยสร้างสารเชื่อมอนุภาคดินให้จับตัวกันเป็นก้อน ทำให้โครงสร้างดินดีขึ้นและช่วยป้องกันโรคพืชบางชนิด

วิธีปรับปรุงความอุดมสมบูรณ์ของดิน

1. เพิ่มอินทรียวัตถุ
ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก หรือไถกลบเศษซากพืชเพื่อเพิ่มอินทรียวัตถุในดิน

2. ปลูกพืชหมุนเวียน
สลับการปลูกอ้อยกับพืชตระกูลถั่วเพื่อเพิ่มไนโตรเจนในดิน

3. ปรับค่า pH
ใช้ปูนขาวหรือโดโลไมท์ในดินกรด หรือใช้กำมะถันในดินด่างเพื่อปรับค่า pH ของดินให้เหมาะสม

4. เพิ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์
ใช้สารเร่งพด. หรือน้ำหมักชีวภาพเพื่อเพิ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในดิน

การดูแลและปรับปรุงความอุดมสมบูรณ์ของดินอย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้ไร่อ้อยของเราให้ผลผลิตที่ดีและยั่งยืนในระยะยาว เพราะดินดี อ้อยก็จะงอกงาม ผลผลิตสูง เกษตรกรอย่างเราก็จะอยู่ได้อย่างยั่งยืนค่ะ

ที่มาข้อมูล http://oss101.ldd.go.th/

ข่าวปักหมุด