ในยุคที่โลกกำลังเผชิญกับวิกฤตพลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อ้อยได้กลายเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศไทย นอกเหนือจากการเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตน้ำตาล อ้อยยังสามารถนำมาแปรรูปเป็นพลังงานสะอาดได้หลากหลายรูปแบบ
ชานอ้อย ซึ่งเป็นเศษวัสดุเหลือใช้จากกระบวนการหีบอ้อย ถูกนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าชีวมวล โดยโรงงานน้ำตาลทั่วประเทศได้ติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากชานอ้อย ซึ่งนอกจากจะช่วยลดต้นทุนการใช้พลังงานในโรงงานแล้ว ยังสามารถจำหน่ายไฟฟ้าส่วนเกินเข้าสู่ระบบสายส่งของการไฟฟ้า สร้างรายได้เพิ่มเติมให้กับโรงงาน
กากน้ำตาลหรือโมลาส ผลพลอยได้อีกชนิดจากการผลิตน้ำตาล สามารถนำไปผลิตเป็นเอทานอล ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพที่สามารถผสมกับน้ำมันเบนซินในสัดส่วนต่าง ๆ เช่น E10, E20 และ E85 การส่งเสริมการใช้เอทานอลในภาคขนส่งไม่เพียงช่วยลดการนำเข้าน้ำมันดิบจากต่างประเทศ แต่ยังเป็นการใช้พลังงานสะอาดที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
น้ำเสียจากกระบวนการผลิตน้ำตาลก็สามารถนำมาผลิตเป็นก๊าซชีวภาพหรือไบโอก๊าซ ซึ่งสามารถนำไปใช้ทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิลในกระบวนการผลิต หรือนำไปผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อใช้ในโรงงานและจำหน่ายเข้าระบบสายส่ง เป็นการจัดการของเสียที่สร้างมูลค่าและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
การพัฒนาเทคโนโลยีในการผลิตพลังงานจากอ้อยอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าชีวมวล การพัฒนากระบวนการผลิตเอทานอลให้มีต้นทุนต่ำลง และการวิจัยนวัตกรรมใหม่ๆ ในการแปรรูปชีวมวลจากอ้อย จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการผลิตพลังงานสะอาดจากอ้อยให้สูงขึ้น
เพื่อให้การพัฒนาพลังงานสะอาดจากอ้อยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งเกษตรกร โรงงานน้ำตาล สถาบันวิจัย และหน่วยงานภาครัฐ ในการพัฒนาเทคโนโลยี ปรับปรุงกฎระเบียบ และสร้างระบบสนับสนุนที่เหมาะสม
การใช้ประโยชน์จากอ้อยเพื่อผลิตพลังงานสะอาดไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำและการพัฒนาที่ยั่งยืนในอนาคต
ที่มาข้อมูล : วารสารมิตรชาวไร่