ฮัลโหลลลลล มิตรรักชาวไร่ของ มิตรผลโมเดิร์นฟาร์ม ทุกคน คุณเคยมีคำถามไหมคะว่า การทำไร่อ้อยแบบมิตรผลโมเดิร์นฟาร์ม ตามมาตรฐาน BONSUCRO เราจะใช้ปุ๋ยเคมีได้หรือไม่? ติ๊ก ต๊อก ติ๊ก ต๊อก ติ๊กต๊อก….ใช้ได้สิคะ เพราะหากจะว่าตามหลัก 3 ใช่แล้วละก็ การใช้ปุ๋ยเคมีในไร่อ้อยสามารถทำได้ แต่ต้องอยู่ภายในกรอบของ เวลาที่ใช่.. วิธีที่ใช่.. และ..ปริมาณที่ใช่ นะจ๊ะตัวเอง
สิ่งแรกที่ต้องทำคือ ใส่ปุ๋ยให้ถูกต้องต่อความต้องการ
การใส่ปุ๋ยเคมีให้ถูกต้อง จะต้องสอดคล้องกับชนิดและปริมาณ นั่นก็คือ ชนิดของดิน และปริมาณความต้องการของอ้อย ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการผลิตได้เป็นอย่างดี การใส่ปุ๋ยโดยที่ดินนั้น ๆ มีธาตุอาหารเพียงพออยู่แล้ว จะเป็นการลงทุนที่เปล่าประโยชน์ โดยปุ๋ยส่วนที่เกินความต้องการของอ้อยจะถูกชะล้างลงสู่บ่อ คู คลอง และแหล่งน้ำใต้ดิน ก่อให้เกิดมลพิษอย่างรุนแรงได้
การใช้ปุ๋ยในไร่อ้อยให้ถูกต้องนั้น มิตรชาวไร่จะต้องมีความรู้ความเข้าใจลักษณะทางเคมีของดิน เพราะมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโต และการให้ผลผลิตของอ้อยมาก เนื่องจากเป็นลักษณะที่แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของดิน และปริมาณธาตุอาหารในดิน ที่จะเป็นประโยชน์แก่อ้อย รวมถึงความเป็นพิษของธาตุบางตัวด้วย
การประเมินว่าดินที่ใช้ปลูกอ้อยอยู่จะมีคุณสมบัติทางเคมีที่ดีหรือไม่เพียงใดนั้นสามารถทำได้หลายวิธีได้แก่
การใช้ปุ๋ยในไร่กรณีที่ไม่มีการวิเคราะห์ดิน
สำหรับมิตรชาวไร่ที่ไม่ได้นำดินไปตรวจวิเคราะห์ ทำให้ไม่ทราบถึงลักษณะทางเคมีและธาตุอาหารในดิน การใช้ปุ๋ยเคมีจึงจำเป็นต้องพิจารณาตามลักษณะทางกายภาพของดิน ดังนี้
ดินลักษณะนี้มักจะมีธาตุฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมอยู่บ้างจึงเน้นหนักทางด้านธาตุไนโตรเจน ซึ่งแนะนำเป็นปุ๋ยเคมีสูตร 14-14-14, 15-15-15 หรือ 16-16-16 อัตรา 40-50 กิโลกรัม/ไร่ โดยใส่ครั้งแรกพร้อมปลูก หรือหลังแตกกอทันที ใส่ครั้งที่ 2 หลังปลูกหรือแตกกอ 2-3 เดือน
ดินทรายมักจะขาดธาตุโพแทสเซียม เนื่องจากอนุภาคดินถูกชะล้างได้ง่าย จึงแนะนำให้ใส่ปุ๋ยเคมี สูตร 12-12-12, 13-13-13 หรือ 14-14-21 อัตรา 40-60 กิโลกรัม/ไร่ โดยใส่พร้อมปลูกหรือหลังแตกกอ 20 กิโลกรัม ส่วนที่เหลือใส่ครั้งที่ 2 ร่วมกับปุ๋ยสูตร 21-0-0 อัตรา 30-40 กิโลกรัม/ไร่ หรือ 46-0-0 อัตรา 15-20 กิโลกรัม/ไร่ โดยใส่หลังปลูกหรือหลังแตกกอ 60 วัน อาจใช้ปุ๋ยเคมีสูตรอื่นที่มีขายตามท้องตลาดได้ เช่น 16-8-14, 15-5-20 หรือ 16-11-14 โดยใส่ในอัตราเดียวกัน คือ 40-6กิโลกรัม/ไร่ สำหรับอ้อยที่มีน้ำชลประทานให้เพิ่มปุ๋ยยูเรีย อัตรา 15-20 กิโลกรัม/ไร่ หรือปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต อัตรา 25-30 กิโลกรัม/ไร่ ในการใส่ครั้งที่ 2 เช่นเดียวกับใน สภาพดินเหนียวและดินร่วน
ได้คำตอบชัดเจนแล้วใช่ไหมคะ สรุปคือ การใช้ปุ๋ยเคมีให้เป็นคุณนั้น จะต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจในดิน หากเลือกใช้ปุ๋ยให้ถูกต้อง และเหมาะสมกับปริมาณที่อ้อยต้องการ นอกจากจะส่งผลดีต่อผลผลิตแล้ว แน่นอนว่าจะลดการเกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมในไร่อ้อย พร้อมทั้งลดต้นทุนที่เกินความจำเป็นได้อย่างแน่นอนค่ะ