มีข่าวดีมาบอกจ้าพี่น้อง…เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา คุณบรรเทิง ว่องกุศลกิจ เปิดบ้านต้อนรับนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยขอนแก่นกว่า 50 ชีวิต ที่ได้รับทุนการศึกษาประจำปี 2561 และเปิดโอกาสให้น้อง ๆ ได้เข้ามาเยี่ยมชมโรงงานน้ำตาลมิตรผล เพื่อให้น้อง ๆ ได้เรียนรู้ว่า “กว่าจะได้น้ำตาล 1 กิโลกรัม ราคา 20 กว่าบาท เกษตรกรต้องปลูกอ้อย 1 ปี และต้องใช้หยาดเหงื่อแรงงานจำนวนมาก เพื่อผลิตน้ำตาลออกมา”
ซึ่งทุกกระบวนการ ทุกขั้นตอนที่น้อง ๆ ได้เข้ามาศึกษา ไม่เพียงแต่ให้เกิดการเรียนรู้ขั้นตอนการผลิตน้ำตาลเท่านั้นแต่เป็นการเรียนรู้เรื่องการปลูกอ้อยอย่างถูกต้องตั้งแต่ขั้นตอนแรก โดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ซึ่งมิตรผลเป็นรายแรก ๆ ของประเทศไทยที่นำเทคโนโลยีโมเดิร์นฟาร์มเข้ามาใช้ในการทำไร่ อันที่จริงแล้วเทคโนโลยีเหล่านี้เรียกว่า เครื่องทุ่นแรง จะเหมาะสมกว่า เพราะในอดีตเกษตรกรใช้จอบ เสียมและแรงงานทำไร่ไถนา แต่ปัจจุบันนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ ช่วยทุ่นแรงได้อย่างมาก ทั้งเรื่อง UAV หรือ R&D ที่เข้ามามีบทบาทในการทำเกษตร 4.0 อย่างเห็นได้ชัด
นอกจากนี้ น้อง ๆ จะได้เห็นว่า “อ้อยเป็นพืชมหัศจรรย์” เพราะตั้งแต่ปลูกจนถึงตัด ไม่มีส่วนใดที่ต้องทิ้งเลย ในอ้อย 1 ลำ นอกจากนำมาผลิตน้ำตาลแล้ว ใบอ้อยที่ดูเหมือนจะเป็นเศษซาก นอกจากทิ้งใบคลุมดินแล้ว เรายังนำใบอ้อยมาทำเป็นเชื้อเพลิงชีวมวล ผลิตเป็นพลังงานไอน้ำ พลังงานไฟฟ้า ขายให้แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งในกลุ่มมิตรผลสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ประมาณ 500 เมกะวัตต์ และยังสามารถผลิตเอทานอลเติมรถยนต์จากกากน้ำตาลได้ประมาณ 1,500,000 ลิตร ซึ่งเป็น 30 เปอร์เซ็นต์ของมิตรผลที่ผลิตเอทานอลให้ประเทศไทย
กว่า 61 ปีที่กลุ่มมิตรผลเข้ามาสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้แก่เกษตรกรไทย เราดูแลชาวไร่กว่า 38,000 คน 50,000 ครอบครัว และจ้างงานอีกกว่า 200,000 ชีวิตต่อปี
มิตรผลได้รับโอกาสจากพี่น้องมิตรชาวไร่ทั่วประเทศร่วมเดินเคียงบ่าเคียงไหล่ไปด้วยกัน พร้อมกับความมั่นใจในคุณภาพของผู้บริโภคน้ำตาลจากผลผลิตอ้อยของมิตรผล ดังนั้น เมื่อมีโอกาสมิตรผลยินดีที่จะส่งมอบโอกาสเหล่านี้ให้แก่อนาคตของชาติ ด้วยความเชื่อมั่นว่า การศึกษา คือ รากฐานสำคัญของการพัฒนาคนและพัฒนาชาติต่อไป.