เสียงร่ำลือจากเพื่อนชาวไร่ ทำให้คุณวัชชระ บัวศรี เจ้าของไร่อ้อย 120 ไร่ แห่งโรงงานน้ำตาลมิตรผลภูเวียง อยากรู้จักมิตรผลโมเดิร์นฟาร์ม เพราะเขาอยากรู้ว่าการทำไร่แบบไหนที่จะช่วยให้ผลผลิตและกำไรดียิ่งขึ้น และจุดเริ่มต้นของมิตรชาวไร่ท่านนี้คือ การศึกษาดูงานที่ประเทศออสเตรเลีย
“ผมแค่สนใจในหลักการของมิตรผลโมเดิร์นฟาร์ม แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะใช้กับเราได้จริงหรือเปล่า ก่อนไปออสเตรเลียก็คิดว่า ที่บ้านเขาได้ผลผลิตดีคงเป็นเพราะมีพื้นที่กว้าง เครื่องมือทันสมัยและดินมีคุณภาพกว่าบ้านเรา ไม่แน่ใจว่าจะนำหลักการของเขามาใช้กับเราได้จริงไหม แต่ก็ตัดสินใจลองไปเพราะอยากไปดูว่าอากาศที่ออสเตรเลียเขาเป็นยังไง อ้อยเขาเป็นยังไง”
“สิ่งหนึ่งที่ทำให้ตระหนักชัดเจนคือ ดินที่ประเทศออสเตรเลียไม่ได้มีคุณภาพดีไปกว่าเราเลย ปริมาณน้ำก็เช่นกัน แต่เขามีวิธีบริหารจัดการ เขาจัดการดินและน้ำจนสร้างอ้อยได้ผลผลิตดีเยี่ยม เขาหาวิธีเอาชนะธรรมชาติ ดินบ้านเขาไม่ดี เขาก็นำดินไปวิเคราะห์วิจัย ค้นหาว่ามันขาดสารอาหารตัวไหน ต้องเติมปุ๋ยสูตรใดเข้าไป ต้องพรวนอย่างไรจึงจะเหมาะสม เขาจึงจะลงมือปลูก บ้านเขาทำอ้อยแบบป้องกัน แต่บ้านเราทำอ้อยแบบแก้ไข คือรอให้เกิดปัญหาก่อนจึงค่อยแก้ แต่เขาป้องกันไม่ให้ปัญหามันเกิด ไม่ให้ มีวัชพืช ไม่ให้มีโรค ผลผลิตเขาจึงดี”
“หลังจากไปศึกษาดูงานเราได้รู้จักกับหลักสี่เสาของมิตรผลโมเดิร์นฟาร์ม ซึ่งมีหลักการทำงานแบบออสเตรเลียที่เราไปดู เป็นการทำไร่สมัยใหม่ มีการบริหารจัดการไร่อย่างเหมาะสม ทั้งเรื่องต้องลดการไถพรวนเพื่อไม่ให้จุลินทรีย์ตาย การทิ้งใบอ้อยคลุมดิน เพื่อให้ดินมันชุ่มชื้น ทำให้ประหยัดค่าน้ำที่ต้องนำมาลดได้เกือบ 2,000 บาทต่อไร่พอดินดี ก็ช่วยแก้ปัญหาเรื่องวัชพืช ประหยัดค่ายาฉีดลงไปได้เอง แถมอ้อยงามกว่าเดิม”
“การได้ไปเห็นความสำเร็จที่เกิดขึ้นจริง ทำให้มั่นใจว่าเราเดินมาถูกทาง จากที่เคยทำไร่อ้อยแบบที่เคยทำตามๆ กันมา เครื่องไม้เครื่องมือก็ใช้เท่าที่มีอยู่ แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าเครื่องมือก็คืออาวุธที่สำคัญที่จะเพิ่มพลังให้การทำไร่อ้อยของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้น ตอนนี้ผมก็มีเครื่องใส่ปุ๋ย เครื่องไถพรวน เครื่องสับใบสี่จาน มีหัวรถลาก มีรถตัดที่ใช้มาเป็นปีที่สองแล้ว ซึ่งปีแรกรถตัดได้ 22,300ตัน ปีนี้ได้เพิ่มมาเป็น 25,000 ตัน ถามว่าพอใจไหม ผมค่อนข้างพอใจ แต่รู้ว่าเรายังทำได้มากกว่านี้อีก ที่ออสเตรเลียเขาตัดกันได้ 50,000-60,000 ตัน แปลว่าจริง ๆ เรายังทำได้อีก ตอนนี้ผลผลิตยังไม่เต็มประสิทธิภาพ ก็ถือว่าเป็นการสั่งสมประสบการณ์ คิดว่าปีต่อๆ ไปต้องดีกว่านี้แน่นอน เพราะเรามีแนวทางให้เดินแล้ว”
คุณวัชชระกล่าวให้ฟังอย่างภูมิใจว่า การทำไร่แบบมิตรผลโมเดิร์นฟาร์ม ทำให้เขารู้สึกว่า เขาไม่ได้เดินต่อสู้อยู่เพียงลำพัง ทีมงานมิตรผลโมเดิร์นฟาร์มให้ความสนับสนุนและให้คำปรึกษา รวมถึงติดอาวุธให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อยด้วยการเปิดโอกาสพาไปศึกษาดูงาน ทำให้เขาได้เห็นว่าแนวทางการทำไร่อ้อยแบบมิตรผลโมเดิร์นฟาร์มคือของจริง…เข้าตำรา “สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น” แต่จะให้ได้ผลดีต้องลงมือทำเอง