หากพูดถึงนวัตกรรมเกษตรสมัยใหม่ ที่ช่วยเสริมบทบาทด้านความแม่นยำและลดเวลาการทำงานให้เกษตรกรมากขึ้น “โดรน” ยืนหนึ่งในนวัตกรรมเกษตรแม่นยำสูงนั้น ด้วยคุณสมบัติการทำงานและราคาที่แตะต้องได้ ทำให้โดรนถูกนำมาใช้ในภาคการเกษตรขยายวงกว้างขึ้น
โดรน หรือ อากาศยานซึ่งไม่มีนักบินประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก ถูกพัฒนาจากการใช้งานเพื่อถ่ายภาพจากมุมสูง สู่โดรนเพื่อการเกษตร มีลักษณะการใช้งานแบ่งเป็น 2 ประเภท ประเภทแรก คือ ใช้สำรวจและวางแผนการผลิตพืช ไม่ว่าจะการสำรวจพื้นที่ ติดตามการเติบโตของพืช เพื่อนำมาคาดการณ์ผลผลิตหรือวางแผนการจัดการแปลง รวมไปถึงวิเคราะห์หาโรคพืช และประเภทที่สอง คือ ใช้เพื่อทุ่นแรง เช่น การหว่านเมล็ดพืช การให้น้ำ ให้ปุ๋ย ฉีดพ่นสารควบคุมวัชพืช หรือฉีดสารชีวภัณฑ์ ซึ่งโดรนถือเป็นประโยชน์อย่างมาก โดยเฉพาะพืชที่มีลำต้นสูง
ข้อดีของการใช้โดรนเพื่อการเกษตร
ทั้งนี้หากมิตรชาวไร่สนใจอยากนำอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนมาช่วยงานในไร่สักเครื่อง ควรศึกษารายละเอียดและปฏิบัติตามระเบียบการใช้โดรนในประเทศไทย ซึ่งมีข้อบังคับและกฎหมายจากพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. 2497 ควบคุมอยู่ โดยข้อควรปฏิบัติสำคัญคือ “การขึ้นทะเบียนโดรน” สำหรับโดรนที่มีคุณสมบัติดังนี้
ซึ่งขั้นตอนการขอขึ้นทะเบียนโดรน มิตรชาวไร่สามารถเข้าไปยื่นออนไลน์ พร้อมดาวน์โหลดเอกสารประกอบการยื่นขอขึ้นทะเบียนได้ตามลิงก์ของ CAAT https://www.caat.or.th/uav/ การลงทะเบียนจะทราบผลพิจารณาภายใน 15 วันทำการ นับตั้งแต่วันที่เอกสารครบถ้วนเท่านั้น ซึ่งหนังสือการขึ้นทะเบียนโดรนมีอายุ 2 ปี
ทั้งนี้มีข้อจำกัดของบางหน่วยงานที่ไม่ต้องขึ้นทะเบียนโดรน อาทิ หน่วยงานสังกัดราชการทหาร ราชการตำรวจ ราชการศุลกากร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เนื่องจากไม่อยู่ภายใต้บังคับพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ.2497
ดังนั้น เกษตรกรอย่างเราไม่ได้เข้าข่ายที่ต้องรับการยกเว้นการขึ้นทะเบียน เพราะฉะนั้นมิตรชาวไร่ท่านใดที่ตั้งใจจะมีโดรนเข้ามาช่วยเพิ่มความแม่นยำ ทุ่นแรง ลดเวลาการทำงานในไร่อ้อย ต้องดำเนินการตามขั้นตอนให้ครบถ้วน เพื่อหลีกเลี่ยงบทลงโทษตามพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ.2497 มาตรา 24 ประมวล มาตรา 78 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ที่มาข้อมูลและภาพ