หน้าแรก

ทุก ๆ ปี เรามักจะคุ้นเคยเป็นอย่างดีกับการเตือนภัยให้ประชาชนเตรียมรับมือกับฤดูแล้ง และในปีนี้ก็เช่นกัน ดูเหมือนว่าภัยแล้งยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น

สำหรับภาคการเกษตรถือว่าได้รับผลกระทบโดยตรง เพราะน้ำนั้นคือหัวใจสำคัญในการเจริญเติบโตของพืช จึงจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมสำหรับเรื่องน้ำในช่วงหน้าแล้ง ที่อาจมีน้ำใช้ไม่เพียงพอ มิตรชาวไร่ของเราก็เช่นเดียวกันค่ะ ต้องมีแผนเกี่ยวกับระบบน้ำและชลประทาน เพราะอ้อยนั้นมีความต้องการน้ำมากถึง 1,500 มิลลิเมตร ซึ่งมากกว่าปริมาณน้ำฝนที่ตกเฉลี่ยทั้งปีในบ้านเรา

แผนรับมือระบบน้ำเพื่อสู้ภัยแล้ง ที่มิตรชาวไร่ของเราหลายท่านได้ทดลองทำตามหลัก 4 สูตรลับโมเดิร์นฟาร์ม โดยการวางแผน “ระบบน้ำหรือชลประทาน” ในไร่ ให้มีน้ำใช้อย่างมีประสิทธิภาพ นั่นก็คือการใช้ระบบ “น้ำหยด” ซึ่งตอบโจทย์การใช้น้ำในหน้าแล้งได้เป็นอย่างดี 

อย่างที่ทราบกันดีว่าระบบการให้น้ำมีหลายประเภท แต่แบบที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุดถึง 95 เปอร์เซ็นต์ คือ การให้ระบบน้ำหยดในไร่ จากแหล่งน้ำต่าง ๆ เช่น สระน้ำ บ่อบาดาล แหล่งน้ำธรรมชาติ หรือสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า เป็นต้น ซึ่งระบบน้ำหยดมี 2 ประเภท ได้แก่

  1. ระบบน้ำหยดชนิดฝังใต้ดิน มีประสิทธิภาพในการให้น้ำสูง ประหยัดน้ำ สามารถให้น้ำพร้อมปุ๋ยน้ำได้ และช่วยประหยัดแรงงานในการเคลื่อนย้ายอีกด้วย แต่มีข้อจำกัดตรงที่ให้น้ำได้เฉพาะพื้นที่ที่วางระบบน้ำหยดใต้ดินเท่านั้น และอายุใช้งานของท่อน้ำหยดหลังจากรื้อตออ้อยแล้วต้องทิ้งไปทั้งหมด ไม่สามารถนำกลับมาใช้ได้อีก ดังนั้นระบบนี้จึงเหมาะสำหรับใช้ในแปลงผลิตท่อนพันธุ์อ้อยมากกว่า เพราะช่วยให้อ้อยเจริญเติบโตได้เร็ว สามารถเร่งการเจริญเติบโตด้วยปุ๋ยให้ตัดอ้อยขายเป็นท่อนพันธุ์ได้มากถึงปีละ 2 รอบ
  2. ระบบน้ำหยดบนดิน มีข้อดีคือ สามารถเคลื่อนย้ายได้ ชุดให้น้ำ 1 ชุด ให้น้ำได้ถึงครั้งละ 5 ไร่ สามารถหมุนเวียนให้น้ำได้กว่า 50 ไร่เลยทีเดียว มีส่วนประกอบ ดังนี้
  • ท่อส่งน้ำพีวีซี (PVC) ขนาด 2 นิ้ว จำนวน 10 ท่อน
  • กรองตะแกรง หรือกรองดิส ขนาด 2 นิ้ว จำนวน 1 ตัว
  • อุปกรณ์ต่อท่อและซ่อมท่อ จำนวน 100 ตัว
  • สายน้ำหยด หนา 10 มิลลิเมตร ความยาว 6,000 เมตร
  • ระยะห่างระหว่างหัวน้ำหยด 20 – 50 เซนติเมตร

โดยมีค่าใช้จ่ายอัตรา 4,500/ไร่ คิดเป็นจำนวนเงิน 22,500 บาท/ชุด และมีอายุการใช้งาน 3 ปี สามารถใช้ได้กับพืชเกือบทุกชนิด

แน่นอนว่าการใช้ระบบน้ำหยดมีประสิทธิภาพสูง การลงทุนเลยสูงตามมาด้วย แต่ปัจจุบันมีหลายบริษัทนำเข้ามาจำหน่ายและได้ทำโครงการส่งเสริม โดยร่วมมือกับโรงงานน้ำตาล ซึ่งมิตรชาวไร่สามารถซื้อระบบเงินผ่อนผ่านโรงงานน้ำตาลได้ค่ะ

น้ำหยด-003.jpg

ข้อดีของการใช้ระบบน้ำหยดทั้ง 2 แบบนี้ นอกจากเป็นการให้น้ำอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยแล้ว ยังช่วยเรื่องวัชพืช
 ไม่ให้ขึ้นมารบกวนอ้อยมากนัก เพราะน้ำจะหยดบริเวณกออ้อยเท่านั้น ในขณะที่พื้นที่ระหว่างแถวปลูกจะแห้งจนวัชพืชไม่สามารถงอกและเจริญเติบโตแข่งกับอ้อยได้

อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่ามิตรชาวไร่ของเราหลายท่าน ได้ทดลองนำระบบน้ำหยดไปใช้ในไร่ และผลที่ได้คือ อ้อยเจริญเติบโตดี ได้รับน้ำอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย แม้ในหน้าแล้งก็ไม่มีปัญหา เพราะระบบนี้ใช้น้ำน้อยที่สุด แต่มีประสิทธิภาพมากสุด หากมิตรชาวไร่ท่านใดยังคงกังวลเรื่องการให้น้ำในหน้าแล้ง ไม่ต้องลังเลอีกต่อไป เพราะระบบน้ำหยดช่วยได้อย่างแน่นอนค่ะ

ข้อมูลจาก :

http://www.mitrpholmodernfarm.com/2019/04/
http://www.mitrpholmodernfarm.com/news/2019/07/

ภาพประกอบ :

https://www.google.com/search

ข่าวปักหมุด