- มิตรผลโมเดิร์นฟาร์ม
- อ., 13 ก.พ. 61
สวัสดีค่ะมิตรชาวไร่ทุกท่าน ช่วงนี้น้องอ้อยของเราคงได้รับน้ำฝนกันชุ่มฉ่ำถ้วนหน้า สำหรับพื้นที่ที่กำลังปรับปรุงดินในแปลงด้วยการปลูกพืชบำรุงดิน หวังว่าคงเริ่มลงมือปลูกกันบ้างแล้วนะคะ
วันนี้มิตรผลโมเดิร์นฟาร์มมีเรื่องราวของตัวเลข 3 หลักบนกระสอบปุ๋ยมาเล่าให้ฟังค่ะ ตัวเลขไหนช่วยเหลือพืชด้านอะไรบ้าง
ตามหลักสากลตัวเลขข้างกระสอบปุ๋ยให้ความหมายว่า ในกระสอบปุ๋ยน้ำหนัก 100 กิโลกรัม มีธาตุ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม ที่ต้นไม้นําไปใช้ประโยชน์ปริมาณตามตัวเลข 3 หลักที่แสดงบนกระสอบปุ๋ย เช่น 12-24-12
12, 24 และ 12 กิโลกรัม รวมแล้วมีเนื้อธาตุอยู่ 48 กิโลกรัม ส่วนอีก 52 กิโลกรัม นั้น เรียก ว่า “สารตัวเติม” หรือ “ฟิลเลอร์” ซึ่งผู้ผลิตนิยมใช้ดินเหนียวหรือเม็ดทราย ผสมคลุกเคล้าให้เป็นเนื้อเดียวกัน เพื่อสะดวกในการคํานวณอัตราการใส่ปุ๋ยต่อหน่วยพื้นที่ ส่วนน้ำหนักบรรจุกระสอบละ 50 กิโลกรัม เป็นการลดน้ำหนักในการบรรจุ ช่วยให้แบกหามเข้าในสวนง่ายขึ้น ซึ่งสะดวกกับทั้งผู้ผลิต ผู้จําหน่าย และผู้ใช้
ทั้งนี้หากมิตรชาวไร่จำเป็นต้องใช้ปุ๋ยเคมีเพื่อบำรุงพืช ถ้าจะให้ประสิทธิภาพจำเป็นต้องการเลือกใช้ชนิดปุ๋ยให้ถูกต้อง โดยมีหลักคร่าวๆ คือ
แน่นอนว่าเพื่อให้ปุ๋ยที่ใช้เกิดประสิทธิภาพต่อพืชสูงสุด มิตรชาวไร่ต้องคำนึงถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการใส่ปุ๋ย เช่น ระยะต้นกล้าหรือเร่งสร้างใบ กิ่ง และลำต้น ควรเน้นใส่ปุ๋ยที่มีสูตรตัวเลขอันแรกมาก เช่น12-6-6 ระยะก่อนออกดอก ออกดอก และติดผล ควรเน้นใส่ปุ๋ยที่มีสูตรตัวเลขอันแรกมาก เช่น 12-12-24 แต่ในฤดูที่ฝนตกชุก ควรหลีกเลี่ยงการใส่ปุ๋ย เพราะอาจทำให้ปุ๋ยละลายชะไปกับน้ำได้
อย่างไรก็แล้วแต่ในการบำรุงรักษาพืชเกษตรต่าง ๆ ไม่เฉพาะเจาะจงแค่อ้อย หากมีความจำเป็นจริง ๆ เพื่อให้ผลผลิตของพืชเจริญงอกงาม การใช้ปุ๋ยเคมีจึงไม่ใช่เรื่องผิดแต่ประการใด เพียงแต่มิตรชาวไร่ต้องเลือกปุ๋ยและช่วงเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้การบำรุงด้วยปุ๋ยเคมีเกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อผลผลิตของพืชนั้น ๆ
ขอบคุณที่มา
https://www.technologychaoban.com/folkways/article_103981
http://www.doa.go.th/ard/wp-content/uploads/2019/10/KM-TheCorrectFertilizerLabel.pptx