สวัสดีปีวัวทองค่ะพี่น้องมิตรชาวไร่… ไหน ไร่ของใครเริ่มตัดอ้อยกันแล้วบ้างเอ่ย หลายไร่คงทยอยตัดอ้อยเข้าโรงงานมาตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมาแล้วใช่ไหมคะ
สำหรับพี่น้องมิตรชาวไร่ที่ตัดอ้อยสด ไว้ใบอ้อยคลุมดิน ต้องขอบคุณมากนะคะที่ท่านได้มีส่วนช่วยให้สิ่งแวดล้อมไม่เป็นพิษ แต่สำหรับไร่อ้อยที่ตัดอ้อยเผาใบ ท่านทราบหรือไม่ว่า เมื่อใดที่คุณตัดสินใจ เลือกวิธีเผาใบอ้อยแทนการทิ้งใบคลุมดิน คุณได้สร้างมลพิษทางอากาศขึ้นทันที เพราะการเผาไหม้ทุกครั้ง มีทั้งก๊าซพิษและฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพทั้งระยะสั้นและระยะยาวมากมาย ถึงแม้ระบบหายใจของมนุษย์อย่างเรา ๆ จะมีกลไกในการดักจับฝุ่นละอองได้ แต่ถ้าเป็นฝุ่นละอองขนาดเล็กจากการเผาใบอ้อยเช่นนี้ ร่างกายเราไม่สามารถดักไว้ได้นะคะ ฝุ่นเหล่านี้จะเข้าไปในระบบหายใจ ฝังในปอด และส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนที่สูดดมเข้าไปอย่างรุนแรงร้อยเปอร์เซ็นต์
ทำไมการเผาใบอ้อย จึงเป็นการสร้างมลพิษ ?
เพราะเมื่อเกิดการเผา จะมีสารอันตรายต่าง ๆ เกิดขึ้น ดังนี้
- ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เมื่อเกิดการเผาไหม้ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เกิดขึ้นแน่นอน ซึ่งถ้าเราสูดเข้าไปในร่างกาย จะทำให้หายใจเร็ว ความดันโลหิตสูงขึ้น หัวใจเต้นเร็ว ยิ่งถ้าได้รับปริมาณมาก จะมีผลกดสมอง มึนงง สับสน อาจหมดสติ และเสียชีวิตได้
- สารฟอร์มาดีไฮด์ สารตัวนี้ทำให้ระคายเคืองเนื้อเยื่อทางเดินหายใจ ในระยะยาวทำให้เกิดโรคต่อถุงลมปอด ส่วนพิษในระยะเฉียบพลัน คือ แสบตา ระคายเคืองทางเดินหายใจ แน่นหน้าอก หายใจหอบ หากสูดดมไอระเหยเข้มข้นสูงมากตั้งแต่ 100 พีพีเอ็ม อาจทำให้เสียชีวิตได้
- สารคาร์บอนมอนนอกไซด์ อันนี้มีผลทำให้ออกซิเจนไม่สามารถรวมตัวกับเฮโมโกบินในเลือดได้ ทำให้ร่างกายขาดออกซิเจน เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ หัวใจเต้นเร็ว คลื่นไส้อาเจียน ถึงขั้นหมดสติและเสียชีวิตได้เหมือนกัน
- สารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ทำให้ชีพจรเต้นถี่ แน่นหน้าอก หากได้รับในปริมาณเข้มข้นสูง อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในกลุ่มอ่อนแอ เช่น ผู้ป่วยโรคหอบหืด ผู้ป่วยโรคหัวใจ โรคปอด และผู้สูงอายุ
- สารโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน หรือสารพีเอเอช เจ้าตัวนี้เป็นสารก่อมะเร็งที่หากได้รับพิษนี้อย่างต่อเนื่อง จะเป็นสาเหตุของมะเร็งปอด มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งผิวหนัง มะเร็งตับ และมะเร็งกระเพาะอาหารได้
- ฝุ่นละออง การเผาไหม้ทุกอย่าง เกิดฝุ่นละอองร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งฝุ่นละอองเหล่านี้ทำให้เกิดการระคายเคืองของระบบทางเดินหายใจ ดวงตา ผิวหนัง เกิดอาการไอ เจ็บคอ หอบหืด แสบจมูก แสบหู แสบตา ผิวหนังอักเสบ นอกจากนี้ โรคเรื้อรังอื่น ๆ เช่น ไอเรื้อรัง โรคภูมิแพ้ โรคผิวหนังอักเสบเรื้อรัง โรคไซนัสอักเสบ ยังตามมาถามหาอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
มิตรชาวไร่จะเห็นว่า ถึงแม้ความรุนแรงต่อสุขภาพจากสารพิษที่เกิดจากควันไฟเผาใบอ้อยไม่ได้เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน แต่อย่าลืมนะคะว่า ปริมาณการสูดดมเข้าไป ระยะการสัมผัส การสูดดมสะสมต่อเนื่องมายาวนาน ล้วนเป็นปัจจัยทำให้เกิดอันตราย ตายผ่อนส่งได้
และนี่คืออีกเหตุผลที่มิตรผลโมเดิร์นฟาร์มรณรงค์ให้ชาวไร่ตัดอ้อยสด ไว้ใบคลุมดิน เพราะนอกจากจะช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อม ป้องกันผลกระทบระยะยาวต่อสุขภาพด้านมลพิษแล้ว การตัดอ้อยสดยังช่วยให้ชาวไร่ได้อ้อยสดที่มีคุณภาพ ค่าความหวานดี ได้ใบอ้อยบำรุงดิน และบางส่วนของใบอ้อยสามารถขายเป็นเชื้อเพลิงเข้าโรงไฟฟ้าชีวมวลได้เงินอีกทาง มีแต่ได้กับได้แบบนี้ ทำไมเรายังต้องเผาใบอ้อยกันอีกล่ะ…จริงไหมคะ?
ขอบคุณที่มา:
https://www.thairath.co.th/
https://www.thaihealth.or.th/