- ข่าวสารมิตรชาวไร่
- พ., 28 เม.ย. 64
โดย S&P Global ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลที่ทั่วโลกให้การยอมรับ และเป็นผู้ประเมินความยั่งยืนให้กับบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หรือ Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการยกระดับองค์กรสู่มาตรฐานการพัฒนาที่ยั่งยืนบนเวทีโลก
ทางด้านคุณบรรเทิง ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการบริษัท และประธานกรรมการบริหาร กลุ่มมิตรผล กล่าวถึงรางวัลผลการประเมินความยั่งยืนระดับสากลที่ได้รับในครั้งนี้ว่า “กระแสความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในโลก ทั้งจากสภาวะสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ บริบททางสังคม
รวมทั้งบทบาทของเทคโนโลยีที่เข้ามาควบคุมการใช้ชีวิตมากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจทั้งรายใหญ่ และรายย่อย ต้องเร่งปรับตัวให้ทัน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง โดยมีเรื่องของความยั่งยืนเป็นหัวใจสำคัญที่ทุกองค์กรต้องใส่ใจและไม่ควรมองข้าม”
“ถึงแม้ว่ากลุ่มมิตรผลจะไม่ได้เป็นองค์กรที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แต่เรามีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาการดำเนินงานด้านความยั่งยืนให้มีความโปร่งใสและมีมาตรฐานเดียวกับบริษัทจดทะเบียนชั้นนำในตลาดหลักทรัพย์ เราจึงได้เข้าร่วมประเมินความยั่งยืนขององค์กรร่วมกับ S&P Global ซึ่งมีการประเมินผลแบบเดียวกันกับ DJSI และทำให้เราเห็นถึงโอกาสในการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานในมิติต่าง ๆ ให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งทำให้กลุ่มมิตรผลก้าวกระโดดจากการเป็นอันดับที่ 17 ในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร สู่อันดับที่ 4 ในปี 2563
สำหรับกลุ่มมิตรผล เราให้ความสำคัญกับการสร้างความยั่งยืนมาตลอดระยะเวลากว่า 65 ปี ด้วยการดำเนินงานตามหลักปรัชญา “ร่วมอยู่ ร่วมเจริญ” ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพชาวไร่อ้อย ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม เพราะการที่องค์กรหนึ่งจะเติบโตได้อย่างยั่งยืนนั้น เราจะต้องคิดถึงคนอื่นและไม่สร้างผลกระทบให้กับสิ่งแวดล้อมหรือสังคม ดังนั้น เรื่องของความยั่งยืนจึงไม่ได้เป็นเพียงกลยุทธ์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับธุรกิจเท่านั้น แต่ยังถือเป็นการแสดงความมุ่งมั่นขององค์กรในการช่วยดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมในฐานะของพลเมืองประเทศและโลก”
หลักการและแนวคิดในการดำเนินงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการเป็นองค์กรที่ยั่งยืนของแต่ละองค์กรมีความแตกต่างกันออกไป โดยกลุ่มมิตรผลได้แบ่งออกเป็น 3 มิติ ประกอบไปด้วย เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ซึ่งขับเคลื่อนผ่านนวัตกรรมและดิจิทัล สอดคล้องและสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals: SDGs) ในด้านเศรษฐกิจ กลุ่มมิตรผลเป็นองค์กรที่มีการกำกับดูแลให้มีนโยบายด้านธรรมาภิบาล ความโปร่งใส และนำจรรยาบรรณองค์กรมาปฏิบัติอยู่เสมอ
ซึ่งทำให้ได้รับรางวัลองค์กรโปร่งใสในปี 2563 ด้านสิ่งแวดล้อม ได้มีการดำเนินกิจกรรมเพื่อความยั่งยืนหลากหลายโครงการ อาทิ การส่งเสริมให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสด งดเผา โดยรับซื้อใบอ้อยเพื่อนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับผลิตไฟฟ้าชีวมวล ช่วยลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมให้ความรู้เกษตรกรตามแนวทาง “มิตรผล โมเดิร์นฟาร์ม” ซึ่งเป็นการทำไร่อ้อยสมัยใหม่ที่ลดการเผาอ้อย, ปลูกพืชตระกูลถั่วเพื่อบำรุงดินและลดการใช้สารเคมี, ใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ, ไม่ปลูกอ้อยในพื้นที่ป่าสงวน และไม่จ้างแรงงานเด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ซึ่งสอดคล้องกับมาตรฐานความยั่งยืนระดับโลก BONSUCRO
อีกทั้งด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ที่จัดทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการนำเครื่องมือการประเมินความเสี่ยงด้านน้ำในพื้นที่ที่โรงงานตั้งอยู่ มาช่วยในการวางแผนและพัฒนาการบริหารจัดการน้ำ การหมุนเวียนน้ำในกระบวนการผลิตเพื่อกลับมาใช้ซ้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด และการบริหารจัดการน้ำในไร่อ้อยอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดผ่านรายงานความยั่งยืนประจำปี เพื่อสะท้อนความโปร่งใสและแสดงความมุ่งมั่นในการพัฒนาสู่ความยั่งยืนของกลุ่มมิตรผล
และในด้านสังคม จากการดำเนินงานด้านสังคมอย่างต่อเนื่องในโครงการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน การจ้างงานผู้พิการ เพื่อให้ผู้พิการมีงานมีรายได้ โครงการนี้เป็นหนึ่งในความสำเร็จที่เกิดขึ้นจริงกับชุมชน และยังทำให้กลุ่มมิตรผลได้รับรางวัลองค์กรที่สนับสนุนงานด้านคนพิการระดับดีเยี่ยม ประจำปี 2563
หลังจากประสบความสำเร็จในการเป็นองค์กรไทยที่ก้าวสู่ Top 4 ด้านความยั่งยืนในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารระดับโลกในปีนี้แล้ว ในอนาคตกลุ่มมิตรผลยังมีความมุ่งมั่นและตั้งใจเพื่อที่จะยกระดับองค์กร และดำเนินการเพื่อให้เกิดความยั่งยืน ตามหลักปรัชญา “ร่วมอยู่ ร่วมเจริญ” ที่กลุ่มมิตรผลถือเป็นหัวใจหลักในการวางแผนพัฒนาการดำเนินงานให้เกิดความยั่งยืนอย่างต่อเนื่องต่อไป