พี่น้องมิตรชาวไร่คะ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบแก่พี่น้องชาวไทยทุกสาขาอาชีพ แม้แต่พี่น้องเกษตรกรก็ยังได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า โดยเฉพาะเรื่องยอดขายผลผลิตทางการเกษตรที่ลดลง เนื่องจากตลาดที่รับซื้อ รวมถึงร้านค้า ร้านอาหารที่ต้องการใช้ผลผลิตต่างได้รับผลกระทบทั่วกัน
ส่งผลให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภาครัฐที่ดูแลเกษตรกรโดยตรงได้จับมือกับกระทรวงกลาโหม จัดโครงการรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรและสนับสนุนพื้นที่จำหน่ายและกระจายผลผลิต เพิ่มโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงสินค้าเกษตรคุณภาพในราคาที่เป็นธรรม บรรเทาผลกระทบจากโควิด-19 และผลผลิตล้นตลาด
โดยได้จัดพิธีลงนามการจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรและการสนับสนุนพื้นที่จำหน่ายและกระจายผลผลิตทางการเกษตรระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงกลาโหม ณ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้ข้าราชการทหารและครอบครัว รวมถึงประชาชนในพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ มีโอกาสได้เข้าถึงผลผลิตทางการเกษตรและอาหารที่มีคุณภาพในราคาที่เป็นธรรม อีกทั้งเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรให้มีจุดจำหน่ายและกระจายผลผลิตทางการเกษตร เพื่อบรรเทาผลกระทบจากกรณีผลผลิตทางการเกษตรล้นตลาดและมีราคาตกต่ำ อันเนื่องมาจากสถานการณ์ต่างๆ โดยกระทรวงกลาโหมยินดีรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรจากเกษตรกร โดยเฉพาะสินค้าเกษตรที่ได้รับผลกระทบในกรณีผลผลิตทางการเกษตรล้นตลาด และสนับสนุนพื้นที่สำหรับเป็นจุดจำหน่ายและกระจายสินค้าเกษตรในจังหวัดต่างๆ และพื้นที่ใกล้เคียง โดยจะสนับสนุนและคัดเลือกพื้นที่ที่มีศักยภาพเพื่อจำหน่ายและกระจายผลผลิตทางการเกษตร (Drop Point) และรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรจากเกษตรกร ตามความต้องการและศักยภาพของหน่วย เช่น ผลผลิตปศุสัตว์ ประมง ผักและผลไม้ตามฤดูกาล ผลิตภัณฑ์นม ไข่ สินค้าเกษตรอินทรีย์ และผลผลิตทางการเกษตรที่สำคัญอื่น ๆ เป็นต้น
ซึ่งเบื้องต้นได้กำหนดพื้นที่ที่พร้อมให้การสนับสนุน รวม 42 พื้นที่ ครอบคลุมพื้นที่ทุกภาค ทั้งนี้อยู่ระหว่างหน่วยงานในสังกัดในระดับพื้นที่ร่วมกันสำรวจความต้องการรับซื้อและความพร้อมศักยภาพพื้นที่ของกระทรวงกลาโหม จำนวน 42 แห่ง ในพื้นที่ 25 จังหวัด ในการจัดเป็นจุดจำหน่ายสินค้าเกษตรและกระจายผลผลิตทางการเกษตร โดยให้สำนักงานเกษตรจังหวัดรายงานผลให้กรมส่งเสริมการเกษตร เพื่อจัดทำแผนการดำเนินงานต่อไป
สำหรับเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรที่ประสบปัญหาผลผลิตล้นตลาดสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือไปยังสำนักงานเกษตรจังหวัด และสำนักงานเกษตรอำเภอในพื้นที่ได้โดยตรง
ขอบคุณที่มา :
https://www.tcijthai.com/news/2018/01/current/8361