หน้าแรก

สวัสดีค่ะมิตรชาวไร่ ปัจจุบันความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช่วยให้ชีวิตมนุษย์อย่างเรา ๆ สะดวกสบายมากขึ้น ทั้งของใช้รอบตัวที่ทันสมัย ชีวิตความเป็นอยู่ การประกอบอาชีพ รวมถึงไลฟ์สไตล์ที่มีเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้องแทบทั้งสิ้น

แน่นอนว่า เมื่อของใหม่มาของเก่าที่ล้าหลังก็ค่อย ๆ สูญหายไปตามยุคสมัย ยกตัวอย่างเช่น โทรทัศน์เครื่องอ้วนกลมหนัก ๆ โทรศัพท์มือถือปุ่มกดพับได้ เทปคลาสเซ็ท วิดีโอ เป็นต้น เหล่านี้เป็นสิ่งที่ค่อย ๆ สูญหายไปและถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ

เรามาลองจินตนาการกันไหมคะว่า อนาคตสิ่งของต่อไปนี้จะถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้อย่างไร ของใหม่ที่จะมากับของเก่าที่เราเคยใช้จะแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

  1. กระจกมองข้าง ผู้ผลิตรถหรูอย่างออดี้ ได้ผลิตรถยนต์ Audi E-Tron ที่ไม่มีกระจกมองข้าง โดยติดตั้งกล้องพร้อมระบบอัจฉริยะ ที่สามารถมองผ่านหน้าจอทัชสกรีนด้านข้างของประตูได้เลย และกล้องนี้จะคอยช่วยเตือนเกี่ยวกับอันตรายที่จะเกิดขึ้นอีกด้วย

    นอกจากนี้ ระบบเกียร์ธรรมดาและเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันก็จะค่อย ๆ หมดไปเช่นกัน เนื่องจากบริษัทรถยนต์ต่างเริ่มหันมาผลิตรถยนต์ระบบไฟฟ้ากันมากขึ้น ซึ่งทางประเทศอังกฤษเองได้เริ่มติดตั้งเครื่องชาร์จไฟในทุกอาคารใหม่แล้ว ซึ่งทางรัฐบาลอังกฤษเองวางแผนไว้ว่าจะใช้ประชาชนทุกคนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าให้หมดภายในปี 2035

     

  2. รีโมท รีโมทคืออุปกรณ์ที่ทุกบ้านขาดไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นรีโมททีวี วิทยุ แอร์ พัดลม และอื่น ๆ ซึ่งต่อไปในอนาคต อุปกรณ์ต่าง ๆ จะถูกเชื่อมต่อเข้ากับสมาร์ทโฟนและแท็ปแล็ตผ่านแอปพลิเคชั่น และเราจะไม่ต้องใช้รีโมทอีกต่อไป

     

  3. เงินสดและบัตรเครดิต บริษัท TSYS ได้สำรวจวิธีการใช้จ่ายเงินของผู้คนจำนวน 1,000 คน และมีเพียง 120 คนเท่านั้นที่ยังชอบใช้เงินสดอยู่ ในขณะที่คนส่วนใหญ่เลือกที่จะใช้บัตรเครดิต แต่ยุคของบัตรเครดิตกำลังจะหมดลง ตั้งแต่คุณเริ่มทำการชำระเงินผ่านสมาร์ทโฟนได้ในส่วนของ MasterCard เองก็เตรียมเทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า Selfie Pay ที่เราสามารถใช้จ่ายชำระเงินเพียงแค่ “กระพริบตา” ผ่านกล้องหน้าสมาร์ทโฟนของคุณเท่านั้น

     

  4. กุญแจ ในอีก 20 ปีข้างหน้า เราจะลืมเรื่องกุญแจไปได้เลย ไม่ว่าจะเป็นกุญแจบ้าน กุญแจรถ และกุญแจอื่นๆ อย่างเช่นในรถยนต์เองก็มีระบบ Keyless ที่ไม่ต้องใช้กุญแจแบบเดิมอีกต่อไป ส่วนในอนาคต ระบบกุญแจทุกอย่างจะถูกควบคุมผ่านแอพลิเคชั่นบนมือถือของคุณเอง คุณอาจใช้แค่เพียงคำสั่งเสียง การสแกนใบหน้าหรือม่านตาเท่านั้น

     

  5. สายไฟ เมื่อทุกอย่างเริ่มเข้าสู่เทคโนโลยีไร้สาย พวกสายไฟในอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ก็จะเริ่มหมดไป คุณไม่จำเป็นต้องกังวลกับสายหูฟังที่พันกันยุ่งเหยิง การเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ต่าง ๆ จะใช้เพียงแค่ระบบเชื่อมต่อสัญญาณที่ดีกว่า บลูทูธ ที่เราใช้อยู่ในปัจจุบัน

     

  6. เข็มฉีดยา เป็นทั้งข่าวร้ายและข่าวดี ในอนาคตเราจะไม่มีเข็มฉีดยาอีกต่อไป ข่าวดีก็คือจะมีเทคโนโลยีใหม่มาแทนที่ นักวิทยาศาสตร์มีทางเลือกให้คุณ 2 ทาง คือการฉีดไร้เข็มด้วยความเร็วสูง (Needle-Free Jet Injection) ซึ่งเป็นวิธีที่มีหลักการคล้ายกับการฉีดด้วยเข็ม แต่แตกต่างกันเพียงการเอา “ลำพุ่ง” ของเหลวของยาที่มีความเร็วสูงเจาะแทนเข็ม ซึ่งวิธีนี้มีการนำมาใช้บ้างแล้ว แต่ยังมีค่าใช้จ่ายที่สูงมากอยู่ อีกวิธีคือการให้รับประทานแคปซูลชนิดพิเศษ โดยทางสถาบัน MIT ได้คิดค้นแคปซูลที่เคลือบด้วยเข็มขนาดเล็กจำนวนมาก ที่สามารถฉีดยาโดยตรงลงในเยื่อบุกระเพาะอาหาร ซึ่งจะดีกว่ายาแคปซูลแบบเดิมแบบเทียบกันไม่ติดเลยทีเดียว

     

  7. พนักงานส่งพัสดุ อาจฟังดูน่าเหลือเชื่อ แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ได้มีการทดสอบการส่งพัสดุด้วยโดรนแทนการใช้คนส่งมาแล้วหลายครั้ง และมันกำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา ซึ่งต่อไปในอนาคต เราอาจเห็นการส่งพัสดุด้วยเทคโนโลยีที่ดีกว่าโดรน และนั่นจะเป็นจุดจบของบริการส่งพัสดุแบบเดิม ๆ ก็เป็นได้

     

  8. ลายเซ็น เอกสารที่เป็นกระดาษกำลังมีบทบาทน้อยลงเรื่อยๆ และระบบไบโอเมตริกกำลังเข้ามาแทนที่ อย่างที่เราทราบกันดีว่า สมาร์ทโฟนก็มีระบบสแกนใบหน้าเป็นที่เรียบร้อย ตู้ ATM เองก็เช่นกัน และต่อไป ลายเซ็นก็จะค่อยๆ ถูกยกเลิก เพราะการใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าหรือสแกนม่านตา ย่อมยืนยันตนได้ดีกว่าลายเซ็นแน่นอน 100%

     

  9. ถุงพลาสติก ถือเป็นข้อดีที่มนุษย์ในยุคใหม่ เริ่มหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น การรณรงค์เกี่ยวกับการใช้ถุงพลาสติกก็มีให้เราเห็นอยู่เสมอ จนบางประเทศเองก็มีกฏหมายเกี่ยวกับข้อจำกัดของการใช้ถุงพลาสติก และกระตุ้นให้ประชาชนเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้แทน ซึ่งในอีก 20 ปีข้างหน้า ถุงพลาสติกอาจค่อย ๆ หมดไป และมีเทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์แบบใหม่ ที่ย่อยสลายได้มาแทนที่

     

  10. เมาส์คอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น จะสามารถใช้งานได้ผ่านการใช้มือสัมผัส หรือการเคลื่อนไหวของสายตา เมาส์คอมพิวเตอร์จะกลายเป็นสิ่งล้าหลัง มันอาจหายไปหรืออาจกลายเป็นอุปกรณ์ชิ้นอื่นที่เข้ากับเทคโนโลยีใหม่ ๆ กว่านี้

     

  11. ลูกจ้างตาดำๆ มีคำกล่าวที่ว่า “ไม่มีอะไรแทนที่มนุษย์ได้” แต่มีหลายบริษัทยักษ์ใหญ่ได้เริ่มนำเทคโนโลยีเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์หรือ AI มาใช้ ตัวอย่างเช่นธนาคาร UBS ของสวิตเซอร์แลนด์ ได้ทำการโคลนหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคาร ดาเนียล คัลต์ ขึ้นมาเพื่อเป็นที่ปรึกษาทางด้านการเงินให้กับลูกค้าของธนาคาร พวกเขาใช้กล้อง HD กว่า 120 ตัว ในการบันทึกทุกอิริยาบถของคัลต์ และให้ AI ทำการวิเคราะห์ลักษณะท่าทางการพูดจา ซึ่งในเร็ว ๆ นี้เราจะได้เห็น ที่ปรึกษาดิจิตอลตัวเป็น ๆ เกิดขึ้นในโลกแห่งความจริง

บางเทคโนโลยีดังกล่าวข้างต้น เริ่มเกิดขึ้นให้เห็นจริงบ้างแล้ว ทั้งการสั่งงานผ่านสมาร์ทโฟนโดยไม่ต้องใช้รีโมท หรือกุญแจ รถยนต์ไฟฟ้า ระบบสแกนใบหน้าแทนลายเซ็นต์ หรืออื่น ๆ เหล่านี้คือความเปลี่ยนแปลงของโลกที่เกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป และเชื่อว่ามนุษย์เราสามารถเรียนรู้และปรับตัวได้ หากได้รับการสอนหรือแนะนำวิธีใช้ เมื่อใช้เป็นความเคยชินก็จะค่อย ๆ เปลี่ยน จนทำให้เทคโนโลยีเก่า ๆ ค่อย ๆ สูญหายไปตามกาลเวลา

ขอบคุณที่มา :

https://www.khaosara.com/

 

ข่าวปักหมุด