ช่วงนี้หลายคนอาจจะเคยเห็นข่าวกระแสซุปเปอร์มาร์เกตปลูกผักนวัตกรรมระบบฟาร์มเกษตรในอาคาร (Plant Factory) ตามห้างสรรพสินค้า หรือสถานีรถไฟใต้ดิน ซึ่งกำลังได้รับความนิยมไปทั่วทั้งยุโรป อเมริกา และญี่ปุ่น ซึ่งขณะนี้ก็กำลังเป็นที่นิยมในบ้านเรา เนื่องจากผักที่ปลูกด้วยวิธีนี้อุดมด้วยสารอาหาร มีความสด สะอาด ปลอดภัยจากยาฆ่าแมลง รสชาติกรอบอร่อยกว่าผักที่ปลูกในแปลงทั่วไป
นวัตกรรมการปลูกผักในอาคารหรือ Plant Factory นี้ กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก เรียกได้ว่าเป็นเกษตรสมัยใหม่ในอนาคต ทำให้สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยโปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม (ITAP : ไอแทป) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) และ บริษัท ลอฟท์ บิวเดอร์ จำกัด นำเทคโนโลยี Plant Factory มาปลูกผักและผลไม้ออร์แกนิกทั้งสตรอว์เบอร์รี สมุนไพรเมืองหนาวอย่างพาร์สลีย์และดอกไม้กินได้ ไว้ศึกษาเป็นแบบอย่าง
ซึ่งระบบฟาร์มเกษตรแบบ Plant Factory เป็นการปลูกแบบให้ผลผลิตที่มีคุณภาพ ควบคุมการให้แสง น้ำ แร่ธาตุอาหาร และปริมาณก๊าซคาร์บอน ไดออกไซด์ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และปลดปล่อยของเสียสู่สภาพแวดล้อมน้อยที่สุด ช่วยลดความผันผวนในด้านปริมาณและคุณภาพของผลผลิตได้ดีกว่าการเกษตรแบบดั้งเดิม สามารถควบคุมสภาพแวดล้อมทั้งอุณหภูมิ แสงเทียม (LED) เพื่อการสังเคราะห์แสงของพืชผ่านแสงจากหลอดไฟ LED ที่มีการควบคุมความเข้มของแสง ทำให้ลดระยะเวลาการปลูกลงได้ครึ่งหนึ่งของระยะเวลาการเติบโต เสมือนกับการสังเคราะห์แสงจากดวงอาทิตย์
และยังสามารถควบคุมลม ความชื้นในอากาศได้ด้วย ถ้าความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศต่ำกว่ากำหนด ระบบจะเชื่อมต่อกับระบบพ่นละอองน้ำแบบพิเศษ ปรับความชื้นให้เหมาะสม ทั้งระบบการทำงานสั่งผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน สามารถปรับตั้ง แก้ไข ควบคุมการทำงานจากนอกสถานที่ ขอแค่เพียงมีสัญญาณอินเทอร์เน็ตเท่านั้น
นับว่าเป็นนวัตกรรมการเกษตรที่น่าสนใจ ที่มนุษย์ได้ค้นคว้าและทดลองทำสิ่งใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง และถ่ายทอดเป็นความรู้สู่รุ่นต่อ ๆ ไปได้เป็นอย่างดี
ขอบคุณที่มากข้อมูล-ภาพ