ปัจจุบัน เราจะเห็นว่าสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันเกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยเฉพาะปี 2564 ที่ผ่านมาจะเห็นการเปลี่ยนแปลงหลายช่วง เช่น ฤดูหนาวที่ยาวนานกว่าปกติ ฤดูร้อนที่มีทั้งฝนและหนาวแบบเฉียบพลัน และฤดูฝนที่มาเร็วกว่าที่ผ่านมา สภาพเช่นนี้คือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเกิดจากหลายปัจจัยที่ทำให้อากาศแปรปรวนมากขึ้น ถ้ามองแบบผิวเผิน หลายคนมักมองข้ามความเปลี่ยนแปลงนี้ แต่ถ้ามองแบบพินิจพิเคราะห์สภาพอากาศเช่นนี้ เป็นสัญญาณเตือนจากโลก ที่บอกมนุษย์ว่า ต้องหันมาใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมกันให้มากขึ้นได้แล้ว
ปัจจัยที่ผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีอะไรบ้าง
- การหมุนรอบตัวเองของโลกและรอบดวงอาทิตย์
การเปลี่ยนแปลงแนววงโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์มีผลต่อภูมิอากาศเนื่องจากการกระจายของพลังงานรังสีดวงอาทิตย์ที่ตกลงมายังผิวโลกตามละติจูดต่าง ๆ เปลี่ยนแปลงตามไปด้วย คือจะทำให้ฤดูกาลในภูมิอากาศต่าง ๆ บนพื้นผิวโลกเปลี่ยนแปลงด้วยอย่างเป็นลูกโซ่
- การเปลี่ยนแปลงของพลังงานจากดวงอาทิตย์
พลังงานดวงอาทิตย์เป็นสาเหตุจากภายนอกโลกที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ พลังงานดวงอาทิตย์มีการเปลี่ยนแปลงทั้งในด้านปริมาณและด้านคุณภาพซึ่งย่อมมีผลกระทบต่อภูมิอากาศของโลก การเปลี่ยนแปลงของพลังงานรังสีดวงอาทิตย์มีข้อเสนอมากมายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศอันเนื่องมาจากการผันแปรพลังงานดวงอาทิตย์ส่วนใหญ่จะแสดงถึงความสัมพันธ์กับวงจรการเกิดจุดดับบนดวงอาทิตย์และหมอกที่ปิดกั้นระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์
- การเกิดระเบิดของภูเขาไฟ
การระเบิดของภูเขาไฟจะพ่นก๊าซและเศษวัสดุที่ละเอียดมาก ๆ จำนวนมหาศาลเข้าสู่บรรยากาศการระเบิดที่รุนแรงมาก ๆ จะมีกำลังมากพอที่จะพ่นเศษวัสดุต่าง ๆ เหล่านี้ขึ้นไปได้สูงมากถึงบรรยากาศชั้นสตราโตสเฟียร์ ซึ่งจะกระจายแผ่ออกไปทั่วโลกและยังคงล่องลอยอยู่ในบรรยากาศนานหลายเดือนหรืออาจนานมากเป็นปีอิทธิพลที่สำคัญประการแรกที่เกิดจากเถ้าถ่านภูเขาไฟคือ เป็นตัวการขวางกั้นพลังงานรังสีดวงอาทิตย์ที่แผ่ลงมายังผิวพื้นโลกให้ลดน้อยลงมีผลทำให้อุณหภูมิในบรรยากาศชั้นโทรโพสเพียร์ลดต่ำลง
- สาเหตุจากกิจกรรมมนุษย์
ปัจจัยนี้คือสาเหตุสำคัญที่มนุษย์มีส่วนเกี่ยวข้อง และสามารถควบคุมได้ เนื่องจากประชากรโลกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ผืนแผ่นดินที่รองรับประชากรไม่ขยายตาม นอกจากพื้นที่แออัดแล้ว การใช้ทรัพยากรและพลังงานต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
นอกจากนี้กิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ยังส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเรือนกระจกอื่น ๆ ออกสู่บรรยากาศโลก ทำให้ก๊าซเรือนกระจกดูดซับและกักเก็บความร้อนที่แผ่ออกจากโลก ผลคือทำให้โลกร้อนขึ้น
แล้วกิจกรรมใดบ้างของมนุษย์ที่ส่งผลกระทบและมีส่วนทำให้โลกร้อนขึ้น
- การเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล ได้แก่ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยเฉพาะอย่างยิ่งก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการใช้ถ่านหิน น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติในภาคพลังงาน ภาคการผลิตไฟฟ้า ภาคการคมนาคมขนส่งและภาคอุตสาหกรรมการผลิตต่าง ๆ
- การตัดไม้ทำลายป่า เมื่อมีการเผาป่า คาร์บอนไดออกไซด์ปริมาณมหาศาลจะถูกปล่อยออกสู่บรรยากาศโลก ต้องใช้เวลาหลายทศวรรษไม่ว่าจะเป็นกลไกทางธรรมชาติหรือการปลูกป่าทดแทน จึงจะสามารถดึงคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศกลับคืนสมดุลได้
- การทำปศุสัตว์เชิงอุตสาหกรรม การผลิตเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากนมเชิงอุตสาหกรรมเพียงอย่างเดียวได้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกใกล้เคียงกับการปล่อยจากภาคการคมนาคมขนส่ง นอกจากนี้ยังมีการใช้ปุ๋ยที่มีส่วนผสมของไนโตรเจนยังสามารถปล่อยก๊าซไนตรัสออกไซด์ได้อีกด้วย
สรุปง่าย ๆ ว่าก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมมนุษย์ดังกล่าวนี้ เมื่อปล่อยออกสู่บรรยากาศจะส่งผลให้อุณหภูมิเฉลี่ยผิวโลกเพิ่มสูงขึ้น นำไปสู่ภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลกไปอีกหลายสิบหลายร้อยปี
ดังนั้นในฐานะประชากรโลก มิตรชาวไร่สามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ง่าย ๆ ด้วยการตัดอ้อยสด ไม่เผาใบอ้อย หรือเผาวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร รวมถึงเผาขยะกลางแจ้ง เพื่อลดการปลดปล่อยก๊าซพิษได้ แม้จะเป็นเพียงกิจกรรมง่าย ๆ แต่เมื่อทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันเยอะ ๆ การเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอากาศอย่างเฉียบพลันอาจมีให้เห็นน้อยลง
ที่มาข้อมูล-ภาพ
http://www.environnet.in.th/
https://www.greenpeace.org/
https://www.onep.go.th/