นับเป็นเรื่องน่ายินดีที่ประเทศไทยไม่มีการประกาศภัยแล้งในช่วงที่ผ่านมา ทั้งฤดูฝนที่มาไวกว่าปกติ และด้วยความร่วมมือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ปฏิบัติตามมาตรการเชิงรุกเพื่อรับมือภัยแล้งที่วางไว้อย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำฤดูฝนปีนี้มีประสิทธิภาพ รัฐบาลได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติตามมาตรการรับมือฤดูฝนอย่างเคร่งครัด พร้อมติดตามสถานการณ์และเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง เพื่อดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุได้อย่างทันท่วงที รวมถึงวางแผน เก็บกักน้ำสำรอง ทั้งน้ำผิวดินและน้ำใต้ดินไว้รองรับฤดูแล้งหน้า
สำหรับการบริหารจัดการน้ำฤดูฝน ปี 65 ที่มีปริมาณน้ำต้นทุนของแหล่งน้ำทั่วประเทศ (ณ 1 พ.ค.65) 46,660 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 57% ในภาพรวมน้ำต้นทุนมากกว่าปี 64
หนึ่งในมาตรการสำคัญที่จะดำเนินการเพื่อป้องกันผลกระทบในช่วงฤดูฝนคือ การคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมรายเดือน ตั้งแต่ พ.ค.-ธ.ค. 65 ที่มีข้อมูลระบุรายพื้นที่ระดับจังหวัด อำเภอ และตำบล เพื่อให้หน่วยงานได้เตรียมพร้อมแผนปฏิบัติในเชิงพื้นที่ได้อย่างตรงจุด รวมถึงการใช้แผนที่ฝน one map ติดตามสภาพฝนรายภาคในระยะ 3 เดือน (มิ.ย.-ส.ค.) อย่างใกล้ชิด เพื่อเป็นข้อมูลให้หน่วยงานรับผิดชอบการบริหารจัดการน้ำในเขื่อนต่าง ๆ นำไปวางแผนเก็บกักน้ำและระบายน้ำให้เกิดความสมดุล
และเพื่อให้การรับมือวิกฤติน้ำได้อย่างทันท่วงที ได้มีการให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติงานตามมาตรการรับมือฤดูฝนอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุรับมือสถานการณ์อุทกภัยที่อาจจะเกิดขึ้นในทุกภูมิภาคของประเทศ เพื่อให้ทุกฝ่ายรู้บทบาทหน้าที่และผสานความร่วมมือแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงทีหากเกิดสถานการณ์จริง
ที่มาข้อมูล-ภาพ