หน้าแรก

สวัสดีค่ะเพื่อนมิตรชาวไร่ทุกท่าน ช่วงนี้ฝนเริ่มตกมาเรื่อย ๆ แล้วนะคะ แต่เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ปริมาณน้ำฝนยังน้อยและกระทบต่อภาคเกษตรกรรมค่อนข้างมากจากภาวะฝนทิ้งช่วงเมื่อต้นฤดูกาล อย่างไรก็ดีขอให้พี่น้องมิตรชาวไร่วางแผนเรื่องเก็บกักน้ำไว้ใช้สำหรับอ้อยทั้งฤดูกาลให้รัดกุมด้วยนะคะ เพื่อให้น้องอ้อยของเราได้รับน้ำอย่างเต็มที่

สำหรับวันนี้นั้น มิตรผลโมเดิร์นฟาร์มมีสาระดี ๆ เกี่ยวกับพืชชนิดหนึ่งที่หลายคนอาจรู้จักกันเป็นอย่างดี หรือบางคนอาจเคยได้ยินแต่ไม่เคยได้สัมผัสลิ้มรสเลย นั่นก็คือ "บัวหิมะ " ค่ะ พืชสมุนไพรสารพัดประโยชน์จากแดนมังกร ที่มีสรรพคุณหลายด้าน ซึ่งคนส่วนใหญ่นิยมนำมากินสด หรือแปรรูปเป็นอาหาร ยารักษา รวมถึงสกัดเป็นครีมบัวหิมะ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบันค่ะ

ซึ่งบัวหิมะเป็นพืชสมุนไพรที่ค่อนข้างมีราคา มีความต้องการสูงในแง่ของสุขภาพและความงาม ดังนั้นหากมิตรชาวไร่สนใจในเรื่องการปลูกเป็นพืชเสริมรายได้ หรืออยากรู้สรรพคุณและประโยชน์ของบัวหิมะ วันนี้มิตรผลโมเดิร์นฟาร์มมีคำตอบให้ค่ะ

003.jpg

5 สรรพคุณบัวหิมะ มีประโยชน์อย่างไร

1. ช่วยลดน้ำหนัก บัวหิมะมีแคลอรีที่ต่ำ แม้จะมีรสหวาน แต่เป็นรสหวานจากน้ำตาลฟรุตโตโอลิโกแซคคาไรด์ (Fructooligosaccharide) ซึ่งหวานน้อยกว่าน้ำตาล ช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์และคอเลสเตอรอลในเลือด ดังนั้น หากกินผลสด ๆ นอกจากจะช่วยให้อิ่มท้อง ยังสามารถลดน้ำหนัก และควบคุมปริมาณน้ำตาลและคอเลสเตอรอลได้ดี

2. รักษาแผลและอาการอักเสบทางผิวหนัง บัวหิมะทาแผลเป็นได้ไหม คำถามที่หลายคนสงสัย เนื่องจากเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์ ช่วยต้านทานโรคต่าง ๆ จึงได้มีการสกัดครีมบัวหิมะทาแผลเป็น รักษาอาการไฟไหม้ บรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อน การอักเสบของแพ้ตามผิวหนัง จึงกลายเป็นครีมสมุนไพรสารพัดประโยชน์ที่หลายคนต้องมีติดบ้านไว้

3. ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและความดันโลหิต บัวหิมะเป็นสมุนไพรที่มีแร่ธาตุโพแทสเซียมสูง ซึ่งมีส่วนช่วยในการทำงานของระบบหลอดเลือดในร่างกาย เช่น ขยายหลอดเลือด ปรับระบบไหลเวียนโลหิตให้ดีขึ้น นับว่าช่วยลดความดันโลหิตและความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ

4. บำรุงผิวพรรณ ชะลอความเสื่อมโทรม

อย่างที่ทราบกันดีว่าบัวหิมะ กลายเป็นองค์ประกอบหลักของครีมบัวหิมะและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าและกาย เนื่องจากบัวหิมะมีสารอาหารและแร่ธาตุสำคัญ เช่น กรดอะมิโน สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความเสื่อมโทรมของร่างกาย  

5. ลดอาการท้องผูก กระตุ้นระบบขับถ่ายได้ดี บัวหิมะ ประกอบไปด้วยแบคทีเรียโพรไบโอติกส์ หรือกลุ่มจุลินทรีย์ดี อยู่บริเวณทางเดินอาหารและส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย มีส่วนช่วยในการต่อต้านเชื้อจุลินทรีย์อื่น ๆ ช่วยให้การทำงานของระบบทางเดินอาหารปกติ รวมถึงอาการท้องผูกอีกด้วย

นอกจากนี บัวหิมะยังมีสรรพคุณเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น มีส่วนช่วยในการสร้างภูมิคุ้มกัน บำรุงร่างกาย ลดความเสี่ยงระดับน้ำตาลในเลือดสูง รวมถึงแก้อาการร้อนในอีกด้วย

หลายคนอาจสงสัยว่า แล้วบัวหิมะกินยังไง ? ซึ่งวิธีกินบัวหิมะมีหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับความสะดวกและความชอบ ดังนี้ จะกินสดๆ จากผล หรือปรุงอาหาร เช่น เมนูบัวหิมะต้มซุปกระดูกหมู บัวหิมะผัดกุ้ง สลัดบัวหิมะก็ได้ ทำเครื่องดื่มหรือของหวาน เช่น ชาบัวหิมะ น้ำบัวหิมะ บัวหิมะไส้สตรอว์เบอร์รี บัวหิมะน้ำขิง หรือแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ เช่น บัวหิมะกระป๋อง บัวหิมะแผ่น ทั้งนี้ หากกินปริมาณมากเกินไปอาจส่งผลให้เกิดอาการท้องไส้ปั่นป่วนแทน หญิงที่ให้นมบุตร ควรเว้นจากการกินบัวหิมะสด เนื่องจากอาจส่งผลกระทบให้ทารกเกิดอาการท้องเสียได้ค่ะ

มาต่อกันที่วิธีปลูกบัวหิมะกันค่ะ อย่างที่เราเกริ่นไว้ตอนต้นว่าบัวหิมะเป็นพืชเมืองจีน จะปลูกที่ประเทศไทยได้หรือไม่ คำตอบคือ ได้ แต่ต้องดูประเภทว่าแบบไหนเหมาะกับเมืองไทย

ซึ่งบัวหิมะมี 2 ชนิด และมีวิธีปลูกที่ต่างกัน ดังนี้ 

1. บัวหิมะแบบดอก (Snow Lotus) บัวหิมะแบบดอก หรือ บัวหิมะพันปี จัดอยู่ในตระกูลเดียวกับดอกทานตะวัน ลักษณะดอกมีสีขาวและสีขาว เจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่สูง 2,400-4,100 เมตร หรือบริเวณพื้นที่เย็นจัด วิธีการปลูกบัวหิมะแบบดอก สามารถปลูกจากเมล็ดได้ โดยใช้เวลา 3-4 ปีในการเจริญเติบโตเต็มที่จนสามารถเก็บดอกได้

2. บัวหิมะสด หรือ เสวีย เหลียน กว่อ (Yacon) บัวหิมะที่มีผลสีน้ำตาล ลักษณะคล้ายผลของมันฝรั่ง เจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ดินอุดมสมบูรณ์ แพร่พันธุ์ได้ง่าย ชอบอากาศเย็น นิยมปลูกในหลายพื้นที่ทางภาคเหนือของไทย วิธีการปลูกบัวหิมะประเภทนี้ สามารถปลูกจากหน่อของต้นบัวหิมะได้เลย ส่วนใหญ่นิยมปลูกช่วงเดือนมกราคม และใช้เวลา 9-10 เดือน จึงสามารถจะเก็บผลผลิตได้

ราคาของบัวหิมะจะแตกต่างกันตามขนาดของผลและความสวยของผิวด้านนอก นับเป็นอีกหนึ่งผลไม้ที่หากินได้ยาก เนื่องจากใช้เวลานานกว่าผลจะเจริญเติบโตเต็มที่ หากใครที่อยากลิ้มลอง สามารถสั่งซื้อได้ในช่วงฤดูเก็บเกี่ยว ฤดูฝนหรือหนาวเท่านั้น ส่วนเรื่องการปลูก ต้องเป็นพื้นที่ที่มีอากาศเย็นเท่านั้น เพราะบัวหิมะชอบอากาศเย็น สรุปคือพื้นที่ในบ้านเราที่เหมาะกับการปลูกบัวหิมะคือภาคเหนือที่มีอากาศเย็นเท่านั้นนะคะ

ขอบคุณที่มาข้อมูล-ภาพ

รู้จัก "บัวหิมะ" สรรพคุณครบด้าน สมุนไพรหากินยาก รสหวาน อร่อย (msn.com)

ข่าวปักหมุด