ปี 2567 เป็นอีกปีที่นวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่สำคัญเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแนวโน้มเทรนด์ของเทคโนโลยีในปีนี้ เน้นการเข้าถึงเทคโนโลยีได้โดยตรงสำหรับการนำมาใช้ในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค มาดูกันว่ามีเทคโนโลยีอะไรบ้างที่น่าใจ หรืออาจจะมีเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับภาคการเกษตรให้เราได้ติดตาม ไปดูพร้อม ๆ กันค่ะ
เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในปีนี้ยังคงมาแรงต่อเนื่อง จากปีที่ผ่านมาได้สร้างความน่าทึ่งว่า ขีดความสามารถของ AI มนุษย์ทั่วไปได้เข้าถึงและนำมาใช้งานอย่างง่าย ๆ เพียงคลิกเดียว Generative AI ช่วยให้คอมพิวเตอร์สามารถสร้างคอนเทนต์หรือเนื้อหาที่คล้ายกับมนุษย์สร้างขึ้น เช่น ข้อความ รูปภาพ เพลง หรือแม้แต่การเขียนโค้ดในชุดคำสั่งหรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์
แน่นอนว่า Generative AI จะอำนวยความสะดวกให้กับมนุษย์เราได้อย่างมหาศาลในอนาคต ในขณะที่ผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างใหญ่หลวงจะตามมา เพราะเข้าถึงยุคที่มนุษย์เราสามารถสร้างภาพจากจินตนาการได้โดยไม่ต้องพึ่งพาช่างภาพมืออาชีพหรือแม้นางแบบ นายแบบ ใช้หุ่นยนต์เขียนข้อความ เขียนบทความ การแต่งเพลง โดยเอไอ สร้างสรรค์นี้สามารถใช้เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ เช่น การเล่าเรื่อง การวิเคราะห์ข้อมูล การออกแบบ และความบันเทิงได้อย่างครบครัน
ในปี 2567 เอไอสร้างสรรค์นี้จะเป็นตัวพลิกเกมเข้าสู่การใช้งานผ่านสมาร์ทโฟน โดยรุ่นใหม่ ๆ ที่แนะนำในปีนี้จะรองรับการใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน อาทิ การใช้ ChatGPT ได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต จากการพัฒนาชิปเซ็ตใหม่ ๆ อาทิ เปิดตัว Snapdragon 8 Gen 3 ของ
ควอลคอมม์ (Qualcomm) นอกเหนือจากความสามารถการประมวล
ผลกลาง (CPU) และกราฟิก (GPU) แล้ว ยังระบุด้วยว่าสามารถใช้งานโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) บนอุปกรณ์ได้อย่างสมบูรณ์โดยไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อระบบคลาวด์
แม้ว่าก่อนหน้านี้มีการนำเอไอสร้างสรรค์มาใช้ในสมาร์ทโฟนมาแล้ว แต่เป็นเวอร์ชันขั้นสูงที่สามารถสร้างเนื้อหาใหม่ ๆ จะเรียนรู้รูปแบบและโครงสร้างจากชุดข้อมูลขนาดใหญ่ ทำให้สามารถสร้างเนื้อหาใหม่และต้นฉบับได้ต่างจาก AI แบบดั้งเดิมที่ต้องอาศัยกฎที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
แต่ข้อเสียอย่างเช่นการใช้ ChatGPT ต้องการการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตที่ใช้งานได้ เนื่องจากการประมวลผลทั้งหมดทำจากระยะไกลบนเซิร์ฟเวอร์ที่ทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ จากนั้นเนื้อหาที่สร้างขึ้นจะถูกส่งไปยังอุปกรณ์สมาร์ทโฟนของคุณ นั่นหมายความว่าการใช้งานอาจล่าช้า ขึ้นอยู่กับความเร็วของอินเตอร์เน็ตรวมถึงความแรงของสมาร์ทโฟนด้วย
เทคโนโลยี XR เป็นการผสมผสานเทคโนโลยีเสมือนจริงที่มีทั้งหมดเข้าด้วยกัน ได้แก่ 1.เทคโนโลยีความจริงเสมือน VR (Virtual Reality) ที่ทำให้มองเห็นบรรยากาศแวดล้อมจำลอง เสมือนเข้าไปสู่โลกอีกโลกหนึ่งหรือไปอยู่อีกสถานที่หนึ่งด้วยการใส่อุปกรณ์ VR 2.เทคโนโลยีความจริงเสริม AR (Augmented Reality) สร้างวัตถุจำลองให้ปรากฏขึ้นมาบนโลกความเป็นจริงผ่านอุปกรณ์ เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต จอภาพ แว่นตา และ 3.เทคโนโลยีความจริงผสม MR (Mixed Reality) ที่ผสานจุดเด่นของ VR และ AR เข้าด้วยกัน ทั้งจำลองสภาพแวดล้อมและจำลองวัตถุพร้อมต่อยอดให้เหนือชั้นไปอีกขั้น ด้วยการผสานโลกจริงและโลกเสมือนเป็นหนึ่งเดียวกัน ทำให้ผู้ใช้งานสามารถมีปฏิสัมพันธ์หรือตอบโต้กับภาพจำลองเหล่านั้นได้
เทคโนโลยีนี้สามารถใช้เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ เช่น การศึกษา การฝึกอบรม การเล่นเกม การท่องเที่ยว และการดูแลสุขภาพ โดยอุปกรณ์เด่นๆ Apple Vision Pro เป็นอุปกรณ์ MR ที่แอปเปิลเตรียมเปิดจำหน่ายในปีนี้ รวมไปถึงชุด Meta Quest และ Playstation VR ที่ถูกคาดหวังจะอัปเกรดในปีนี้เช่นกัน
เทคโนโลยีนี้ช่วยให้สามารถสร้างวัตถุทางกายภาพจากแบบจำลองดิจิทัล โดยใช้วัสดุหลากหลายชนิด เช่น พลาสติก โลหะ เซรามิก และแม้แต่เนื้อเยื่อชีวภาพ 3D Printing สามารถใช้งานได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นการผลิต การสร้างสินค้าต้นแบบ การปรับแต่ง และการใช้งานทางการแพทย์
เทคโนโลยีนี้เกี่ยวข้องกับการศึกษาค้นคว้าหากลุ่มยีนหรือพันธุกรรมของเซลล์สิ่งมีชีวิต โดยใช้เทคนิคต่างๆ เช่น การหาลำดับ การแก้ไข และการสังเคราะห์ จีโนมสามารถนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆได้ เช่น การดูแลสุขภาพ เทคโนโลยีชีวภาพ เกษตรกรรม และนิติเวช
เทคโนโลยี Datafication จะเข้ามาช่วยเก็บข้อมูลเพื่อนำไปวิเคราะห์โดยใช้เทคนิคต่างๆ เช่น ข้อมูลขนาดใหญ่ การประมวลผลแบบคลาวด์ ปัญญาประดิษฐ์ และการเรียนรู้ของเครื่อง Datafication สามารถใช้เพื่อการตัดสินใจ การเพิ่มประสิทธิภาพ การคาดการณ์ต่างๆ เป็นต้น
นี่เป็นเพียงแนวโน้มของเทคโนโลยีเพียงบางส่วนเท่านั้น ยังมีเทรนด์อีกมากมาย เช่น บล็อกเชน (Block Chain), Internet of Things (IoT), ควอนตัม, เมตาเวิร์ส (Metaverse) เป็นต้น ไม่เพียงแต่เกี่ยวกับเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงวิธีการใช้ การบูรณาการ และการกำกับดูแลด้วย จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องติดตาม การเข้าใจการพัฒนาเปลี่ยนแปลงจึงเป็นสิ่งสำคัญ.
ขอบคุณที่มาข้อมูล-ภาพ