สวัสดีค่ะมิตรชาวไร่ทุกคน ผ่านไปแล้วกับการฉลองเทศกาลสงกรานต์หรือปีใหม่ไทยที่แสนชุ่มฉ่ำ แม้ปีนี้อากาศจะร้อนกว่าทุกปีที่ผ่านมา แต่บรรยากาศของการเล่นน้ำสงกรานต์ของไทยในแต่ละจังหวัดต่างคึกคักและสนุกสนานสร้างเม็ดเงินสะพัดทั่วทั้งประเทศ
แต่สิ่งที่ตามมาจากกิจกรรมที่ผู้คนหลั่งไหลมารวมตัวกันจำนวนมากนั้น คงหนีไม่พ้นโรคภัยไข้เจ็บ โดยเฉพาะโรคโควิด-19 ที่ถึงแม้ว่าในปัจจุบัน ผู้ป่วยติด โควิด-19 จะมีอาการไม่รุนแรงเท่ากับในอดีตโดยถูกจัดให้เป็นโรคประจำฤดูกาลไปแล้วก็ตาม แต่หน่วยงานของรัฐก็ยังคงติดตามรายงานติดตามสถานการณ์ของโควิด-19 ต่อเนื่อง
ทั้งนี้กรมควบคุมโรคเปิดเผยถึงสถานการณ์โควิด-19 ก่อนสงกรานต์พบว่า คนไทยป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยมีผู้ติดเชื้อรวม 846 ราย ป่วยหนักปอดอักเสบ 242 ราย เสียชีวิต 4 ราย
นอกจากนี้ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยว่า เทศกาลสงกรานต์ปีนี้กลับมามีกิจกรรมรวมตัวคนจำนวนมาก เช่น การสังสรรค์ในครอบครัว รดน้ำขอพรผู้ใหญ่ โดยเฉพาะการเล่นน้ำสงกรานต์ที่มีการจัดในหลายพื้นที่ หลังงดเว้นในช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด 19 มาหลายปี ซึ่งระหว่างทำกิจกรรมมีการใกล้ชิดและไม่ได้สวมหน้ากาก จึงเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อและทำให้พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นหลังเทศกาลสงกรานต์ได้ ซึ่งเป็นไปตามคาดการณ์ โดยสถานการณ์สัปดาห์ล่าสุด วันที่ 9-15 เมษายน 2566 พบผู้ป่วยรายใหม่เข้ารักษาในโรงพยาบาล 435 ราย เฉลี่ยวันละ 62 ราย ผู้ป่วยปอดอักเสบ 30 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 19 ราย และผู้เสียชีวิต 2 ราย ซึ่งรับวัคซีนเข็มกระตุ้นนานเกินกว่า 3 เดือนแล้ว
ข้อแนะนำประชาชนหลังเทศกาลสงกรานต์ ให้สังเกตอาการตนเอง 7 วัน ระหว่างนี้หลีกเลี่ยงใกล้ชิดผู้สูงอายุ หรือผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรัง หากมีอาการป่วยให้ตรวจ ATK ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคได้วางแนวทางป้องกันการระบาดของโรคโควิด 19 สำหรับประชาชน 3 มาตรการ คือ
ทั้งนี้หากมีสมาชิกในครอบครัว เพื่อน หรือญาติ ที่ตรวจ ATK แล้วผลเป็นบวกในช่วง 1-2 สัปดาห์ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเพื่อเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรคต่อไปค่ะ
ขอบคุณที่มาข้อมูล-ภาพ