หน้าแรก

สวัสดีค่ะมิตรชาวไร่ที่เคารพรักทุกท่าน การแก้ปัญหาเรื่องการเผาอ้อย หากมีเพียงฝ่ายที่รณรงค์และขอความร่วมมือเพียงฝ่ายเดียว โดยปราศจากการตอบรับและปฏิบัติตามของฝ่ายที่ลงมือ การแก้ปัญหานี้จะไม่มีวันสำเร็จแน่นอน

ปัจจุบันมิตรชาวไร่จะเห็นว่า รัฐบาลรวมถึงภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาการเผาอ้อย ต่างร่วมมือสร้างแรงจูงใจและกระตุ้นให้เกษตรกรหยุดเผาอ้อย ด้วยการสร้างแรงจูงใจและสร้างความตระหนักให้เห็นโทษและอันตรายของการเผาอ้อย

แน่นอนว่าผลตอบรับเรื่องนี้ดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่ยังมีเกษตรกรชาวไร่อ้อยอีกหลายรายที่ยังใช้วิธีการแบบเดิม ๆ ไม่ปรับตัวและเปลี่ยนแปลง อาจจะด้วยเหตุผลนานับประการ

ในฐานะชาวไร่อ้อย เรามาร่วมมือร่วมใจ หยุดเผาอ้อยแล้วหันมาตัดอ้อยสด ส่งอ้อยคุณภาพดีเข้าโรงงานกันดีกว่าค่ะ เพราะการเผาอ้อย มีแต่เสียกับเสีย ซึ่ง 5 เหตุผลที่ต้องหยุดเผาอ้อย จำได้ง่าย ๆ ดังนี้

  1. เผาอ้อยเสียคุณภาพ
  2. เผาอ้อยเสียความหวาน
  3. เผาอ้อยถูกหักเงิน โดยอ้อยไฟไหม้ถูกหักตันละ 30 บาท
  4. เผาอ้อยสร้างฝุ่น PM 2.5
  5. เผาอ้อยเสี่ยงติดคุก 7 ปี

ขอขยายความข้อ 5 การเผาอ้อยเสี่ยงติดคุก โดยอ้างอิงตามกฎหมายอาญามาตร 220 กำหนดว่า “ผู้ใดกระทำให้เพลิงไหม้แก่วัตถุใด ๆ แม้เป็นของตนเอง จนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่น หรือทรัพย์ของผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 14,000 บาท”

เห็นไหมคะ เผาอ้อยมีแต่เสียกับเสีย เรามาหยุดเผาอ้อยกันเถอะค่ะ ไม่ใช่แค่เพื่อตัวเราที่ได้อ้อยดีมีคุณภาพ ได้ราคาดี แต่ยังเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดียิ่งขึ้นอีกด้วยค่ะ

ขอบคุณที่มาข้อมูล-ภาพ

http://www.sugarzone.in.th/

https://www.thairath.co.th/

 

ข่าวปักหมุด