สวัสดีค่ะมิตรชาวไร่ สิ่งสำคัญที่จะช่วยให้อ้อยของเราแข็งแรง ให้ผลผลิตดี แถมยังประหยัดต้นทุนได้อีกด้วย นั่นก็คือ "การใส่ปุ๋ยแม่นยำ" ก่อนเข้าหน้าฝนนั่นเองค่ะ
หลายท่านอาจจะคิดว่า "ก็แค่ใส่ปุ๋ย มันจะยากอะไร" แต่เชื่อเถอะค่ะว่า การใส่ปุ๋ยให้ได้ผลดีนั้น มีหลักสำคัญที่เราเรียกว่า "3 ใช่" นั่นคือ "เวลาที่ใช่ วิธีที่ใช่ และปริมาณที่ใช่" ซึ่งถ้าทำได้ครบทั้ง 3 ข้อนี้ รับรองว่าอ้อยของมิตรชาวไร่จะเติบโตแข็งแรง ให้ผลผลิตสูง แถมยังประหยัดต้นทุนได้อีกด้วยค่ะ
มาดูกันทีละข้อนะคะว่าแต่ละ "ใช่" มีรายละเอียดอะไรบ้าง
การใส่ปุ๋ยให้ถูกเวลาเป็นเรื่องสำคัญมากค่ะ เพราะถ้าใส่ถูกจังหวะ อ้อยก็จะได้ใช้ธาตุอาหารอย่างเต็มที่ แต่ถ้าผิดจังหวะ นอกจากจะเสียเงินเปล่าแล้ว ยังอาจทำให้อ้อยเสียหายได้อีกด้วย
สำหรับการใส่ปุ๋ยก่อนเข้าหน้าฝน ควรทำก่อนฝนตกประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพราะดินยังไม่เปียกแฉะเกินไป ทำให้ใส่ปุ๋ยได้สะดวก เมื่อฝนตกมา ความชื้นจะช่วยละลายปุ๋ยให้แพร่กระจายในดินได้ดี รากอ้อยจะได้ดูดซึมธาตุอาหารได้ทันทีที่มีความชื้นเพียงพอ
แต่ถ้าใส่ปุ๋ยแล้วฝนไม่ตกตามที่คาด แนะนำให้รดน้ำเบา ๆ หลังใส่ปุ๋ย เพื่อให้ปุ๋ยละลายและซึมลงดินบ้าง ไม่เช่นนั้นปุ๋ยอาจระเหยหายไปกับอากาศได้
นอกจากนี้ การแบ่งใส่ปุ๋ยเป็นหลายครั้งก็เป็นเทคนิคที่ดีมากค่ะ โดยเฉพาะสำหรับอ้อยปลูกใหม่ แนะนำให้แบ่งใส่เป็น 3 ครั้ง ดังนี้
ครั้งที่ 1: ใส่ตอนปลูกหรือหลังปลูก 1 เดือน ประมาณ 30% ของปริมาณปุ๋ยทั้งหมด
ครั้งที่ 2: ใส่เมื่ออ้อยอายุ 3-4 เดือน ประมาณ 40% ของปริมาณปุ๋ยทั้งหมด
ครั้งที่ 3: ใส่เมื่ออ้อยอายุ 6-7 เดือน ประมาณ 30% ของปริมาณปุ๋ยที่เหลือ
การแบ่งใส่แบบนี้จะช่วยให้อ้อยได้รับธาตุอาหารอย่างสม่ำเสมอตลอดการเจริญเติบโต ไม่ขาดไม่เกิน แถมยังลดการสูญเสียปุ๋ยจากการชะล้างอีกด้วย
การใส่ปุ๋ยไม่ใช่แค่หว่านลงไปเฉย ๆ นะคะ วิธีการใส่ก็มีผลต่อประสิทธิภาพของปุ๋ยเช่นกัน มาดูกันว่ามีเทคนิคอะไรบ้าง
2.1 ใส่ปุ๋ยให้ถูกตำแหน่งสำหรับอ้อยปลูกใหม่ ให้ใส่ปุ๋ยห่างจากโคนต้นประมาณ 10-15 เซนติเมตร แล้วกลบดินทับ ส่วนอ้อยตอให้ใส่ระหว่างแถว แล้วพรวนดินกลบ วิธีนี้จะช่วยให้รากอ้อยเข้าถึงปุ๋ยได้ดี ไม่ระคายเคืองต่อลำต้น และลดการสูญเสียปุ๋ยจากการระเหยด้วย
2.2 ใส่ปุ๋ยแล้วกลบดิน หลังจากใส่ปุ๋ยแล้ว อย่าลืมกลบดินทับนะค่ะ เพื่อป้องกันการสูญเสียปุ๋ยจากการระเหยและการชะล้าง
2.3 ผสมปุ๋ยอินทรีย์ร่วมด้วย การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ผสมกับปุ๋ยเคมีจะช่วยปรับปรุงโครงสร้างดิน ทำให้ดินร่วนซุย อุ้มน้ำได้ดีขึ้น และช่วยให้ปุ๋ยเคมีออกฤทธิ์ได้นานขึ้น
2.4 ใช้เทคโนโลยีช่วย สำหรับมิตรชาวไร่ที่มีพื้นที่เยอะ การใช้เครื่องใส่ปุ๋ยอัตโนมัติที่ควบคุมด้วย GPS หรือโดรนใส่ปุ๋ย และการใส่ปุ๋ยทางระบบน้ำหยด ก็จะช่วยให้การใส่ปุ๋ยแม่นยำและประหยัดเวลามากขึ้น
การใส่ปุ๋ยในปริมาณที่เหมาะสมเป็นเรื่องสำคัญมากค่ะ เพราะถ้าใส่น้อยไป อ้อยก็จะขาดธาตุอาหาร แต่ถ้าใส่มากเกินไปก็เป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ แถมยังอาจทำให้ดินเสื่อมคุณภาพในระยะยาวอีกด้วย
3.1 การตรวจวิเคราะห์ดินเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้เรารู้ว่าดินของเรามีธาตุอาหารอะไรอยู่แล้วบ้าง และขาดธาตุอะไร ทำให้เราสามารถเลือกสูตรปุ๋ยและกำหนดปริมาณได้อย่างเหมาะสม
3.2 เลือกสูตรปุ๋ยให้เหมาะสม ซึ่งโดยทั่วไป อ้อยต้องการปุ๋ยสูตรที่มีไนโตรเจนและโพแทสเซียมสูง เช่น 16-8-16, 16-8-24 หรือ 18-8-18 แต่ก็ต้องดูผลวิเคราะห์ดินประกอบด้วยนะคะ
3.3 คำนวณปริมาณให้พอดี โดยทั่วไป อ้อยปลูกใหม่จะต้องการปุ๋ยประมาณ 50-100 กิโลกรัมต่อไร่ ส่วนอ้อยตอจะต้องการน้อยกว่า ประมาณ 40-80 กิโลกรัมต่อไร่ แต่ตัวเลขนี้เป็นเพียงค่าเฉลี่ย ควรปรับตามผลวิเคราะห์ดินและคำแนะนำจากนักวิชาการเกษตร
3.4 ใช้เทคโนโลยีช่วยคำนวณ ปัจจุบันมีแอปพลิเคชันที่ช่วยคำนวณปริมาณปุ๋ยที่เหมาะสมสำหรับอ้อย โดยใช้ข้อมูลจากการวิเคราะห์ดินและเป้าหมายผลผลิต ซึ่งจะช่วยให้การคำนวณแม่นยำยิ่งขึ้น
การใส่ปุ๋ยอย่างแม่นยำตามหลัก 3 ใช่ นี้ อาจจะดูยุ่งยากในตอนแรก แต่เมื่อทำไปสักพัก จะเห็นผลลัพธ์ที่คุ้มค่าแน่นอนค่ะ ทั้งอ้อยที่แข็งแรง ผลผลิตที่เพิ่มขึ้น และต้นทุนที่ลดลง
ที่มาข้อมูล : วารสาร Blueprint ดินเหนียว , วารสาร Blueprint ดินทราย