สวัสดีมิตรชาวไร่ทุกคน เผลอแปบเดียว ผ่านมาแล้วเกือบครึ่งปี จากร้อนสู่ฝนก็เข้าสู่ช่วงที่ชาวไร่อย่างเราได้เก็บกักน้ำฝนไว้ใช้ในบ่อ ที่สำคัญเป็นโอกาสดีที่อ้อยตอจะได้น้ำจากฝน ให้เจริญเติบโตตามช่วงอายุกันไป

พูดถึงฤดูกาล จะเห็นว่าฤดูร้อนในปีนี้โหดมากนะครับ อากาศร้อนมาก ไปที่ไหนไม่มีใครที่จะไม่บ่นเรื่องอากาศร้อน มิตรชาวไร่สังเกตไหมครับว่า ร้อนรอบนี้เราเห็นข่าวการเสียชีวิตจากอาการฮีทสโตรกหรือโรคลมแดดเยอะมาก ผมว่าจุดนี้ไม่ปกติแล้วนะครับกับสภาพอากาศที่ร้อนขึ้นทุกวัน

ผมตั้งคำถามและพยายามสังเกตว่า อากาศที่ร้อนขึ้นเกิดจากอะไร แน่นอนว่าไม่ได้มีแค่หนึ่งหรือสองปัจจัย ที่จะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ แต่ที่ผมมองว่าชัดเจนและแก้ไขได้ คือ พฤติกรรมของมนุษย์ครับ เพราะเราใช้ชีวิต เราใช้ทรัพยากร และการทำกิจกรรมต่าง ๆ ของเราบางกิจกรรมส่งผลต่อสภาวะแวดล้อมอย่างเห็นได้ชัด

สำหรับผมมองว่า Climate Change Climate Chance หรือวิกฤตโลกร้อน ถือเป็นโอกาสดีนะครับที่ทำให้มนุษย์เปลี่ยนพฤติกรรม ยกตัวอย่างที่ใกล้ตัวเราที่สุดเลยนะครับ จากชาวไร่ที่เคยเผาอ้อย ก็เปลี่ยนจากการเผานำใบอ้อยมาขายเป็นเชื้อเพลิงให้กับโรงไฟฟ้าชีวมวล ที่ลดการใช้พลังงานจากถ่านหิน น้ำมันดิบ และก๊าซธรรมชาติ ส่วนชาวไร่เองก็สามารถสร้างรายได้เสริมจากการขายใบอ้อย แถมยังช่วยโลกได้อีกด้วย

นอกจากนี้เรื่องพฤติกรรมที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เราสามารถช่วยลดโลกร้อนได้นะครับ เช่น ลดการใช้ถุงพลาสติกและขยะพลาสติก ลดการใช้ยานพาหนะส่วนตัว ช่วยกันประหยัดพลังงาน น้ำ ไฟ หรือเปลี่ยนมาใช้พลังงานสีเขียว เป็นตันครับ

หลายคนอาจจะยังไม่ได้สร้างพฤติกรรมช่วยลดโลกร้อน เพราะยังหาโอกาสที่เหมาะสมไม่ได้ เอาอย่างนี้ดีไหมครับ ในวันสิ่งแวดล้อมโลกที่จะมาถึงในเดือนมิถุนายนนี้ เรามาร่วมกันปักธงในใจขึ้นมาคนละกิจกรรม เพื่อช่วยกันลดภาวะโลกร้อน และสร้างสิ่งแวดล้อมให้สะอาดน่าอยู่มากขึ้น ดีไหมครับ ?

ในส่วนของมิตรผลเอง เราคือธุรกิจในอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลที่สนับสนุน ส่งเสริม ต่อยอดผลิตภัณฑ์จากอ้อยและน้ำตาล สู่ผลิตภัณฑ์ Bio-based ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เราหวังมากครับ ที่จะเป็นส่วนหนึ่งในสังคมและเป็นต้นแบบธุรกิจที่หันมาใช้และสร้างพลังงานสีเขียว เพื่อช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อนที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศให้โลกกลับมาน่าอยู่มากขึ้นครับ

บรรเทิง ว่องกุศลกิจ

ประธานกรรมการ กลุ่มมิตรผล