หน้าแรก

หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า “ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ” หรือ Hypoglycemia ซึ่งเป็นภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดต่ำกว่า 60 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่าปกติและอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ เนื่องจากน้ำตาลในเลือดเป็นแหล่งพลังงานสำคัญที่สมองและเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายต้องการใช้ในการทำงาน เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดต่ำลงมากเกินไป จะส่งผลให้เกิดอาการผิดปกติหลายประการ

อาการแสดงของภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำที่พบได้บ่อย มีดังนี้ค่ะ

  1. อ่อนเพลีย รู้สึกเหนื่อยง่าย ไม่มีแรง หมดเรี่ยวแรง ร่างกายอ่อนล้าผิดปกติ ต้องการพักผ่อนมากกว่าปกติ
  2. วิงเวียน หน้ามืด รู้สึกมึนงง ไม่มั่นคง การทรงตัวไม่ดี อาจเกิดอาการหน้ามืดเป็นลมได้ สายตาพร่ามัว มองเห็นไม่ชัด
  3. ตาลาย เห็นภาพซ้อน กระพริบตาถี่ มองเห็นจุดดำหรือแสงวูบวาบ สายตาไม่โฟกัส
  4. ใจหวิว ใจสั่น หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ รู้สึกใจสั่น หายใจเร็วขึ้น วิตกกังวล
  5. มือสั่น กล้ามเนื้อมือและนิ้วสั่น ควบคุมการเคลื่อนไหวของมือได้ไม่ดี อาจทำของหล่นได้ง่าย เขียนหนังสือหรือทำงานละเอียดลำบาก

เมื่อเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ร่างกายจะพยายามปรับตัวโดยการหลั่งฮอร์โมนต่าง ๆ เช่น อะดรีนาลิน และกลูคากอน เพื่อพยายามปรับระดับน้ำตาลให้สูงขึ้น ทำให้เกิดอาการต่าง ๆ ดังกล่าว นอกจากนี้ยังอาจพบอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น

  • เหงื่อออกมาก โดยเฉพาะในเวลากลางคืน
  • หิวบ่อย หิวมากผิดปกติ
  • ปวดศีรษะ
  • อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย
  • สมาธิไม่ดี ความจำแย่ลง
  • พูดไม่ชัด สับสน
  • ชาตามปลายมือปลายเท้า

การรักษาเบื้องต้นเมื่อเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ

  1. รับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลทันที เช่น น้ำผลไม้ น้ำหวาน ลูกอม
  2. พักผ่อนในที่ปลอดภัย ไม่ควรขับรถหรือทำกิจกรรมที่เสี่ยงอันตราย
  3. ตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดซ้ำหลังรับประทานน้ำตาล
  4. หากอาการไม่ดีขึ้นหรือรุนแรง ควรรีบไปพบแพทย์

การป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ

  • รับประทานอาหารให้ตรงเวลาและสม่ำเสมอ
  • ไม่งดมื้ออาหาร โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ยาเบาหวาน
  • พกน้ำตาลหรือลูกอมติดตัวเสมอ
  • ควบคุมการใช้ยาเบาหวานตามแพทย์สั่ง
  • สังเกตอาการผิดปกติของร่างกาย

ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำเป็นภาวะที่อันตรายและต้องได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงที หากปล่อยไว้อาจทำให้หมดสติและเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ผู้ที่มีความเสี่ยง เช่น ผู้ป่วยเบาหวาน ควรศึกษาและสังเกตอาการเตือนเพื่อป้องกันและรักษาได้อย่างทันท่วงที

ที่มาข้อมูล 

https://www.samitivejhospitals.com/

ข่าวปักหมุด