หากพูดถึงเมืองร้อยเอ็ด นอกจากทุ่งกุลาร้องไห้แล้ว หลายคนคงนึกไม่ออกว่าจะเที่ยวที่ไหนอีกในเมืองนี้ใช่ไหมล่ะคะ นี่เลยค่ะ 5 สถานที่เที่ยวในร้อยเอ็ดที่จะพาไปปักหมุดกันไว้ เผื่อวันไหนผ่านไปจะได้แวะเข้าไปเช็คอินสวย ๆ กัน
- บึงพลาญชัย เรียกว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองร้อยเอ็ดเลยก็ว่าได้ กับเกาะกลางบึงใหญ่ บนเนื้อที่ 200,000 ตารางเมตร ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง บึงพลาญชัยเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจยอดนิยม ตกแต่งจัดสวนสวยงามด้วยไม้ดอกไม้ประดับนานาพรรณ และยังมีเรือบริการสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบกิจกรรมพายเรือ ซึ่งสถานที่แห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ที่เคารพบูชาของชาวร้อยเอ็ดอีกด้วย
ที่ตั้ง : กลางเมืองร้อยเอ็ด ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 - 17.30 น.
- วัดกลางมิ่งเมือง วัดเก่าแก่ที่อาจถือได้ว่าเป็นโบราณสถานสำคัญของจังหวัดร้อยเอ็ด มีการสันนิษฐานว่าวัดแห่งนี้สร้างก่อนการตั้งเมืองร้อยเอ็ด โดยอุโบสถสร้างในสมัยอยุธยาตอนปลาย ซึ่งมีความสวยงามและทรงคุณค่าทางพุทธศิลป์ ในอดีตเคยใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา ปัจจุบันใช้เป็นสถานที่ศึกษาปริยัติธรรม และสถานที่สอบธรรมสถาน
ที่ตั้ง : ถนนเจริญพาณิชย์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 - 16.30 น.
- วัดบูรพาภิราม เป็นพระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดสามัญ เดิมชื่อ วัดหัวรอ ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น วัดบูรพาภิราม ภายในวัดมีพระพุทธรูปปางประทานพรที่สูงที่สุดในประเทศไทย คือ พระพุทธรัตนมงคลมหามุนี หรือหลวงพ่อใหญ่ สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก บริเวณฐานพระพุทธรูปเป็นห้องพิพิธภัณฑ์จำนวนหลายห้อง ความสูงขององค์พระวัดจากพระบาทถึงยอดเกศสูงถึง 59 เมตร 20 เซนติเมตร และมีความสูงทั้งหมด 67 เมตร 85 เซนติเมตร นอกจากนี้หลวงพ่อใหญ่ยังเป็นสัญลักษณ์ประจำจังหวัด ซึ่งปรากฏชื่ออยู่ในคำขวัญของเมืองร้อยเอ็ดด้วย
ที่ตั้ง : ถนนผดุงพานิช ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 - 16.30 น.
- วัดผาน้ำทิพย์เทพประสิทธิ์วนาราม (ผาน้ำย้อย) อีกหนึ่งวัดซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีของชาวร้อยเอ็ดและชาวอีสาน และยังเป็นที่ประดิษฐานพระมหาเจดีย์ชัยมงคลใหญ่ที่มีความงดงามมากที่สุดองค์หนึ่งของประเทศไทย เริ่มก่อสร้างในปี พ.ศ.2528 บนเนื้อที่ 2,500 ไร่ โดยมีพระเทพวิสุทธิมงคล หรือหลวงปู่ศรีมหาวีโร ซึ่งเป็นศิษย์ของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระอาจารย์ใหญ่สายวิปัสสนากรรมฐาน เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการฝึกอบรมด้านการบำเพ็ญปฏิบัติสมถวิปัสสนากรรมฐาน
ที่ตั้ง : ถนนสายหนองพอก – เลิงนกทา บ้านโคกกลาง ต.ผาน้ำย้อย อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด (ห่างจาก อ.หนองพอก 13 กม.)
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-17.00 น.
- ปรางค์กู่ ร้อยเอ็ด มีลักษณะคล้ายกับอโรคยาศาล ตามที่ปรากฏในจารึกปราสาทตาพรหม ซึ่งประกอบด้วยปรางค์ประธาน บรรณาลัย กำแพงพร้อมซุ้มประตู และสระน้ำนอกกำแพง สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์แห่งนี้ยังคงสภาพเดิมอยู่พอสอควร โดยเฉพาะปรางค์ประธานชั้นหลังคา คงเหลือ 3 ชั้น และมีฐานบัวยอดปรางค์อยู่ตอนบน อาคารอื่น ๆ มีที่หักพังบ้างตามกาลเวลา ทว่าสถานที่โดยรอบนั้นร่มรื่นสบายตา
ที่ตั้ง : อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-18.30 น.
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก http://www.painaidii.com นอกจาก 5 สถานที่นี้แล้ว เมืองร้อยเอ็ดยังมีสถานที่สวยงามอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวัดวาอาราม ธรรมชาติ หรือโบราณสถาน มิตรชาวไร่ท่านใดที่เสร็จสิ้นภารกิจจากไร่อ้อยแล้ว หากได้ผ่านมาแถวนี้ก็อย่าลืมแวะไปเที่ยวกันนะคะ
ขอบคุณถาพสวยๆจาก: jangkhao.com, thai-tour.com, libazz.com, amuletacademy.com, sac.or.th