หน้าแรก

ในช่วงนี้กระแสเรื่องฝุ่น PM 2.5 ยังคงอยู่ในกระแสความสนใจ ไม่ใช่เพียงแค่ในประเทศไทยเราเท่านั้น ทั่วโลกเองก็ให้ความสนใจและให้ความสำคัญในเรื่องนี้เช่นกัน ในปัจจุบันมีเว็บไซต์และแอปพลิเคชันหลายตัวที่แสดงค่ามลพิษทางอากาศแบบเรียลไทม์ (เป็นปัจจุบัน ณ เวลานี้) ซึ่งทำให้เราสามารถติดตามและทราบผลของคุณภาพอากาศได้ทันที โดยสามารถดูเปรียบเทียบได้เลยว่าแต่ละพื้นที่มีคุณภาพอากาศเป็นอย่างไร

บ้านใคร-003.jpg

ในส่วนของบ้านเราก็มีแหล่งข้อมูลที่เอาไว้ตรวจเช็คคุณภาพอากาศได้ โดยมิตรชาวไร่สามารถดูได้จากคอมพิวเตอร์ ผ่านทางเว็บไซต์ของกรมควบคุมมลพิษ www.air4thai.com หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Air4Thai ไว้ในมือถือของเราก็ได้ เพื่อเอาไว้ตรวจสอบว่าขณะนี้คุณภาพอากาศในบ้านเราเป็นอย่างไร

ที่มาของข้อมูลจะมีจากการติดตั้งเครื่องตรวจวัดไว้ในจุดต่าง ๆ ทั่วประเทศ และส่งผลของคุณภาพอากาศในแต่ละพื้นที่มารวมไว้ที่กรมควบคุมมลพิษ โดยผลการวัดจะแสดงค่าแบ่งออกเป็น 5 สี ดังนี้

สีฟ้า คือ คุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ดีมาก

สีเขียว คือ คุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ที่ดี

สีเหลือง คือ คุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง

สีส้ม คือ คุณภาพอากาศเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

สีแดง คือ คุณภาพอากาศมีผลกระทบต่อสุขภาพ

ดังนั้นเมื่อมิตรชาวไร่เข้าไปดูก็จะรู้ได้ทันทีว่าบ้านเรามีคุณภาพอากาศเป็นเช่นไร รวมทั้งสามารถดูสถิติย้อนหลังได้ด้วยในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาคุณภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร โดยตัวอย่างข้อมูล ณ เช้าวันอาทิตย์ ที่ 26 มกราคม 2563 พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศอยู่ในเกณฑ์ดี – ดีมาก (คือมีจุดสีเขียวและสีฟ้า) แต่จะมีในบางพื้นที่เป็นสีเหลือง คือ อยู่ในเกณฑ์ปานกลาง เช่น จังหวัดขอนแก่น มุกดาหาร สระบุรี ตาก เป็นต้น และจะมีในบางพื้นที่ในภาคเหนือที่มีคุณภาพอากาศอยู่ในระดับสีส้มและแดง ซึ่งเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ คือ จังหวัดลำปาง แพร่ ลำพูน น่าน พะเยา เป็นต้น (ผลแสดงค่าตัวแทน ณ จัดที่ทำการตรวจวัด)

เมื่อมิตรชาวไร่รู้ค่าของคุณภาพอากาศแล้ว สิ่งที่เกิดประโยชน์ต่อมา คือ หากพื้นที่บ้างเราอยู่ในเขตที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ หรือหากจำเป็นต้องเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง เราก็จะได้หาวิธีป้องกันดูแลตัวเองเพื่อลดผลกระทบหรือไม่ให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ วันนี้เรามีวิธีการเตรียมรับมือและการดูแลตัวเองมาฝากกันค่ะ

  1. งดกิจกรรมกลางแจ้ง เพราะการออกมาทำกิจกรรมกลางแจ้งจะทำให้ยิ่งเสี่ยงต่อการพบเจอฝุ่นละอองในอากาศได้ง่าย โดยเฉพาะการออกกำลังกายที่มีการหายใจและความต้องการปริมาณออกซิเจนมากกว่าปกติ ทำให้จากการดูแลสุขภาพอาจกลายเป็นการทำลายสุขภาพแทนได้ ทางที่ดีจึงควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมในพื้นที่อันตรายและการอยู่ในพื้นที่กลางแจ้งเป็นเวลานาน
  2. ใส่หน้ากากป้องกัน การใส่หน้ากากจะช่วยป้องกันฝุ่นละอองในอากาศได้ แต่ควรเลือกใช้หน้ากากที่มีมาตรฐาน ไม่ชำรุดเสียหาย ใส่ครอบปิดจมูกและปากให้มิดชิด รวมถึงควรเปลี่ยนทุกวันหรือใช้แบบครั้งเดียวทิ้ง เพื่อสุขลักษณะที่ดี และ ถึงแม้ว่าหน้ากาก N95 จะขาดตลาด แต่ก็สามารถทดแทนหรือเทียบเท่าได้ด้วย การใช้หน้ากากผ้า หน้ากากอนามัย 2 ชั้น หน้ากากอนามัย+ทิชชู่ หรือ ผ้าขาวม้าเย็บทบ 4 ชั้น เพื่อช่วยป้องกัน สำหรับใครที่ยังไม่มีก็รีบหามาพกติดกระเป๋าไว้เลย จะได้หยิบมาใช้ได้ทุกที่ทุกเวลาค่ะ

    บ้านใคร-007.jpg

  3. ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด เพราะไม่ว่านอกบ้านจะมีฝุ่นละอองล่องลอยมากมายแค่ไหน ก็ควรทำให้พื้นที่ในบ้านสะอาดเข้าไว้ ด้วยการปิดประตู-หน้าต่าง เก็บแหล่งสะสมฝุ่น อย่าง พรม ตุ๊กตา ให้มิดชิด และ หมั่นทำความสะอาดปัด กวาด เช็ดถู เป็นประจำหรือบ่อยกว่าปกติ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการฟุ้งกระจายและการสะสมของแหล่งเชื้อโรคที่อาจเล็ดลอดหรือติดตามเสื้อผ้าเข้ามาภายในบ้าน

    บ้านใคร-004.jpg

  4. ดื่มน้ำบ่อยๆจิบน้ำเยอะๆ เพราะการดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยให้ร่างกายอยู่ในสภาวะที่สมดุล โดยเฉพาะการจิบน้ำบ่อย ๆ และการดื่มน้ำอุ่นในอุณหภูมิปกติ จะสามารถช่วยในการขับสารพิษ ลดอาการแพ้ และช่วยเคลียร์ระบบทางเดินหายใจให้โล่งขึ้นได้ รวมถึงถ้าหากเกิดอาการแพ้ คัดจมูก อาจดื่มชาอุ่น ๆ หรือ น้ำผลไม้ เพื่อช่วยลดอาการและเพิ่มวิตามินให้แก่ร่างกาย

    บ้านใคร-005.jpg

  5. เตรียมยาให้พร้อมถ้าหากมีอาการแพ้หรือโรคประจำตัว ไม่ว่าจะเป็น โรคทางเดินหายใจ โรคเยื่อบุตาอักเสบ โรคผิวหนัง โรคหัวใจและหลอดเลือด ควรเตรียมยาประจำตัวไว้ให้พร้อมอยู่เสมอ และ เมื่อเริ่มมีอาการผิดปกติ หรืออาการเรื้อรังต่อเนื่อง อย่างการหายใจลำบาก รู้สึกเหนื่อยล้าผิดปกติ แน่นหน้าอก แสบตา น้ำตาไหล ตาแดง หรือ ไอรุนแรง ก็ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน

    บ้านใคร-006.jpg

  6. การปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียว เพราะการปลูกต้นไม้จะช่วยเพิ่มออกซิเจน กรอง และ ฟอกฝุ่นควันในอากาศที่อยู่โดยรอบได้ ซึ่งไม่ว่าจะเป็น ต้นไม้ขนาดใหญ่บริเวณนอกบ้านหรือต้นไม้ขนาดเล็กภายในบ้านก็ล้วนแล้วแต่มีประสิทธิภาพในการช่วยลดมลพิษได้อย่างดีเยี่ยม รวมถึงการปลูกพืชคลุมดินที่จะช่วยลดโอกาสการลอยฟุ้งกระจายของฝุ่นในอากาศได้อีกด้วย
  7. ลดกิจกรรมที่ทำให้เกิดฝุ่น สำหรับสภาพอากาศที่มีฝุ่นละอองในตอนนี้ลดไม่ได้ก็ขอให้อย่าได้เพิ่ม มาช่วยกันคนละไม้คนละมือในการงดหรือลดกิจกรรมที่อาจทำให้เกิดฝุ่นละออง ไม่ว่าจะเป็น การสูบบุหรี่ การใช้รถยนต์ส่วนตัว การเผาขยะหรือเศษใบไม้ในที่โล่งแจ้ง รวมทั้งการเผาพื้นที่ทางการเกษตรด้วย

บ้านใดที่ในบ้านมีเด็ก ผู้สูงอายุ และสตรีมีครรภ์ ยิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะกลุ่มคนเหล่านี้จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากฝุ่นไวกว่าคนปกติ มิตรผลโมเดิร์นฟาร์มขอเชิญชวนมิตรชาวไร่ทุกคนก็สามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดฝุ่น PM 2.5 ได้ เพียงเริ่มจากตัวเรา และคนใกล้ตัว มาร่วมสร้างอากาศดี ๆ ให้บ้านเราไปด้วยกันนะคะ

ขอบคุณที่มา และ ภาพประกอบ:

https://waqi.info/th/
http://air4thai.pcd.go.th/webV2/
https://www.baanlaesuan.com/135033/diy/easy-tips/protect-from-dustpollution

ข่าวปักหมุด