เห็นชื่อเรื่องแบบนี้ หลายท่านคงเริ่มสงสัยว่า ทำไร่แบบไหนกันที่ใช้หลักธรรมเข้ามาช่วยจนเกิดความสุขทางใจ ใช่ค่ะ! ท่านเข้าใจไม่ผิด วันนี้เราจะพูดถึงเรื่องการทำไร่อ้อยด้วยหลักธรรมของพ่อพนม ยศรุ่งเรือง มิตรชาวไร่ใจดีแห่งภูเขียวเขต 2 ค่ะ

หลักการทำไร่ของพ่อพนม

1. ทำไร่แบบมิตรผลโมเดิร์นฟาร์ม ใช้เครื่องมือการเกษตรสมัยใหม่และจัดการแปลงอย่างเหมาะสม
2. แบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วน ทำไร่อ้อยส่วนใหญ่ และที่เหลือเพาะปลูกทำเกษตรแบบผสมผสาน
3. ใช้หลักธรรม ทำไร่ “ยิ่งให้ยิ่งได้”

หลักการข้อที่ 1

พ่อพนมนำหลักการทำไร่แบบมิตรผลโมเดิร์นฟาร์มมาใช้ ด้วยการนำเครื่องมือเกษตรสมัยใหม่เข้ามาใช้แทนแรงงานคน รวมทั้งเรื่องการบริหารจัดการไร่ ทำให้พ่อพนมมีเวลาเหลือไปสู่หลักการที่ 2

หลักการที่ 2

ผลพลอยได้จากการทำไร่สมัยใหม่ จึงแบ่งพื้นที่ขุดสระ เลี้ยงปลา เลี้ยงสัตว์ ปลูกผัก ปลูกผลไม้ ไม่ใช่เพื่อไว้กินลดค่าใช้จ่ายในครอบครัวอย่างเดียว แต่พ่อพนมปลูกไว้เพื่อ “แบ่งปัน” สู่หลักการที่ 3

หลักการที่ 3

“ยิ่งให้ยิ่งได้” เป็นหลักธรรมจากการศึกษาธรรมะจากหลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม วัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี พ่อพนมเกิดความเลื่อมใสและนำหลักธรรมเรื่องการให้ การแบ่งปัน มาใช้กับตนเอง ด้วยการแบ่งปันอาหารการกินที่ปลูกขึ้นมาเองให้แก่เพื่อนบ้าน รวมถึงน้ำใจช่วยเหลือเมื่อคนอื่นเดือดร้อน

นอกจากนี้ พ่อพนมยังยึดหลักแห่งความพอเพียงตามรอยในหลวงรัชกาลที่ 9 ใช้พื้นที่ที่ตัวเองมีให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งต่อตัวเองและผู้อื่น เป็นการทำไร่อ้อยที่มีการผสมผสานระหว่างการทำเกษตรสมัยใหม่แบบมิตรผลโมเดิร์นฟาร์ม กับหลักธรรมตามคำสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ที่นอกจากจะได้ผลดี มีกำไรแล้ว ชีวิตยังสุขใจกับการให้ และนี่คือหลักการใช้ชีวิตของพ่อพนม ยศรุ่งเรือง  “สร้างความพอดีกับชีวิต ใช้ชีวิตอยู่แบบพอเพียง”