ศราวุฒิ รัตนะ ทายาทเถ้าแก่รถตัดอ้อยป้ายแดงประจำฤดูหีบนี้ เขาเป็นใครเราไปติดตามกันค่ะ
คุณศราวุฒิ รัตนะ จบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขารัฐศาสตร์การปกครอง จากมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตศรีล้านช้าง ปัจจุบันอายุ 34 ปี เป็นลูกชายคนเล็ก ของคุณวาฤทธิ์ รัตนะ แห่งเขตภูเขียว คุณศราวุธ เกิดและเติบโตในครอบครัวชาวไร่อ้อยที่ขยันและอบอุ่น
คุณศราวุฒิเล่าว่า ตั้งแต่เกิดและจำความได้ ไร่อ้อยเปรียบเสมือนสนามเด็กเล่น ทุกครั้งที่พ่อแม่มาไร่อ้อย เขาจะติดตามมาด้วยตลอด แม้กระทั่งมาติดต่อธุระที่โรงงานน้ำตาล บทบาทในไร่ของเขาตอนเด็ก คือ จะได้รับมอบหมายให้ช่วยงาน เล็ก ๆ น้อย ๆ ในไร่ เช่น วิ่งส่งเสบียงอาหารให้คนงาน นับจำนวนมัดอ้อย ขับรถรับส่งคนงานในไร่ ช่วยใส่ปุ๋ยบำรุงตอ จากนั้นงานค่อย ๆ ใหญ่ขึ้น คือมาดูแลเครื่องจักร ขับรถไถเตรียมดินปลูกอ้อย
ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจ ทำให้พ่อวาฤทธิ์ยกหน้าที่งานบริหารจัดการไร่ของครอบครัวให้คุณศราวุฒิดูแลทั้งหมดร้อยเปอร์เซ็นต์ ทั้งด้านการวางแผนปลูก การบำรุงรักษา และการเก็บเกี่ยวอ้อยเข้าหีบ ทั้งนี้ คุณศราวุฒิได้นำหลักการทำไร่แบบมิตรผลโมเดิร์นฟาร์มมาใช้บริหารจัดการไร่อ้อย จึงทำให้มีความมั่นใจในการดูแลงานทั้งหมดแทนพ่อกับแม่อย่างเต็มที่
“พ่อกับแม่แบ่งพื้นที่ให้ผมรับผิดชอบและทำไร่อ้อยในส่วนของตัวเองบนพื้นที่ 100 ไร่ โดยให้สิทธิ์อำนาจในการตัดสินใจเองและรับผลกำไรเองทั้งหมด ทุกครั้งที่ได้ทำงานผมมองว่ามันเป็นรื่องสนุกและท้าทายอยู่เสมอ เพราะการทำงานของผมต้องแข่งกับเวลา และสภาพภูมิอากาศฟ้าฝนที่ไม่สามารถควบคุมหรือกำหนดได้ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นปัญหาและอุปสรรค เมื่อเรามีการวางแผนบริหารจัดการที่ดี ได้นำเครื่องจักรกลเข้ามาเป็นตัวช่วยในการทำไร่อ้อย สามารถย่นระยะเวลาได้ถึง 1 ใน 4 และเพิ่มผลผลิตได้เป็นเท่าตัว อีกทั้งยังสามารถลดต้นทุนการผลิตและปัญหาด้านแรงงานได้เป็นอย่างดี ณ ปัจจุบัน แปลงอ้อยของผมได้ปรับเปลี่ยนมาเป็นแบบรองรับการเก็บเกี่ยวด้วยรถตัดแล้ว 80 เปอร์เซ็นต์ เหลือในส่วนของพื้นที่ลุ่มเพียง 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ยังต้องอาศัยแรงงานคนเข้าช่วยตัด”
แม้ประสบการณ์งานบริหารไร่ของคุณศราวุฒิจะมีไม่มากถ้าเทียบกับพ่อ แต่การได้เห็นและเรียนรู้จากครอบครัวตั้งแต่เด็กจนโต ทำให้ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่เขาจะลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง ถึงแม้เขาไม่ได้เรียนจบด้านการเกษตร แต่มีพ่อกับแม่ที่เป็นต้นแบบ และเป็นครูที่คอยแนะนำสอนงานให้ทุกอย่าง การทำไร่จึงเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา คุณศราวุฒิกล่าวว่า หากเพียงเรากล้าคิด ไม่หยุดที่จะเรียนรู้ และเปิดใจยอมรับพร้อมปรับตัวเข้าหาเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่กำลังเข้ามาอยู่ตลอดเวลา ทุกอย่างก็สบาย
และนี่คือทายาทเถ้าแก่รถตัดอ้อยคนล่าสุด “ศราวุฒิ รัตนะ” แห่งเขตภูเขียว