แน่นอนว่า “น้ำ” เป็นปัจจัยที่สำคัญลำดับต้น ๆ ของการปลูกอ้อยให้ได้ผลผลิตสูง ค่าความหวานดี เพราะน้ำ ต้องไปทำปฏิกิริยาเคมีให้ได้สารอาหาร ฮอร์โมนและสารอื่น ๆ เพื่อให้เกิดการงอก เป็นต้นอ่อนออกจากตา หากขาดน้ำ อ้อยก็จะไม่งอกหรือถ้างอกแล้วก็จะเจริญเติบโตได้ช้า เพราะฉะนั้นการเลือกช่วงปลูกอ้อยที่เหมาะสม รวมถึงการจัดการระบบชลประทานในไร่อ้อย จึงมีความสำคัญมาก เพื่อให้อ้อยได้รับน้ำอย่างเต็มที่ ดร.ปรีชา พราหมณีย์ ที่ปรึกษากลุ่มงานพัฒนาและจัดการด้านอ้อย กล่าวว่า ช่วงเวลาที่เหมาะสมต่อการปลูกอ้อยมากที่สุดคือ ช่วงปลายฝน เพราะเป็นช่วงที่ดินเก็บน้ำได้มากที่สุด แต่ก็มีความเสี่ยง 2 ข้อคือ
ดร.ปรีชา แนะนำว่า เกษตรกรผู้ปลูกอ้อยจะรอน้ำฝนอย่างเดียวไม่พอ เพราะปริมาณน้ำฝนโดยเฉลี่ยที่ตกในบ้านเราเพียง 1,000 มิลลิเมตร ไม่เพียงพอต่อความต้องการของอ้อย 1,600 มิลลิเมตร เพราะฉะนั้น เพื่อความมั่นใจว่าจะได้ผลผลิตอ้อยที่ดี ต้องเตรียมน้ำไว้ให้อ้อยนอกเหนือจากน้ำฝน เช่น การขุดบ่อ บึง สระ บ่อบาดาล ฯลฯ และที่สำคัญต้องบริหารจัดการให้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ดังนี้
จะเห็นได้ว่าทั้งการปลูกอ้อยช่วงปลายฤดูฝน (ประมาณเดือนตุลาคม) และการให้น้ำด้วยระบบน้ำหยด เป็นวิธีจัดการน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ถ้าอยากให้อ้อยมีอัตราการงอกดี ตั้งตัวได้เร็ว แตกกอดี เจริญเติบโตได้ดี ให้ผลผลิตสูง และมีความหวานสูง ต้องเลือกเวลาปลูกที่ให้อ้อยได้ใช้น้ำมากที่สุด
ขอบคุณภาพจาก: https://pxhere.com