หน้าแรก

ช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมา เชื่อว่าหลายคนคงเห็นการนำอุปกรณ์ของใช้ส่วนตัวในแต่ละวันเข้าอบฆ่าเชื้อด้วยรังสียูวี (UV) ทั้งกระเป๋า มือถือ นาฬิกา กุญแจบ้าน กุญแจรถ เป็นต้น

ด้วยคุณสมบัติของรังสีอัลตราไวโอเลต หรือแสง UV เป็นสเปกตรัมของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งมีความถี่ที่สูงกว่าช่วงของแสงที่ตาเรามองเห็นได้ปกติ โดยแสง UV-C เป็นแสง UV ที่มีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก หรือเชื้อโรคต่าง ๆ

ทั้งนี้ การใช้แสง UV แม้จะสามารถฆ่าเชื้อโรคได้ดี แต่ต้องระมัดระวังหากนำไปใช้ไม่ถูกวิธีอาจเป็นอันตรายต่อมนุษย์ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม่แนะนำให้ใช้แสง UV ในการฆ่าเชื้อโรคบนร่างกายมนุษย์

UV-C เป็นรังสียูวีที่มีความยาวคลื่นสั้น หากใช้ด้วยความเข้ม หรือระดับปริมาณที่เหมาะสม จะมีคุณสมบัติในการทำลายจุลชีพ ซึ่งรวมถึงเชื้อไวรัส Covid-19 ได้ ซึ่งไวรัสแต่ละชนิดมีความทนต่อยูวีต่างกัน ซึ่งการทำลายเชื้อจะเกิดขึ้นเวลาที่ตัวรังสี UV เข้าไปตกกระทบกับตัวไวรัส แล้วไปทำลายโครงสร้างของตัวไวรัส ทำให้ไม่สามารถที่จะจำลองตัวเอง เพื่อที่จะขยายจำนวนได้ต่อไป เป็นการทำให้เชื้อตาย โดยที่ต้องใช้พลังงานจากรังสี UV ที่เหมาะสม ซึ่งในส่วนของรังสี UV-C ไม่ใช้ฆ่าเชื้อกับคน แต่จะใช้ฆ่าเชื้อที่อยู่บนพื้นผิววัสดุต่าง ๆ เช่น มือถือ พวงกุญแจ หรือวัสดุที่ไม่สามารถซักล้างทำความสะอาดได้

รังสีUV-003.jpg

ที่สำคัญอย่างยิ่ง คือ ผู้ใช้ควรป้องกันตัวเองด้วย ซึ่งหากเป็นเครื่องที่ปล่อยแสง UV-C ในกล่อง หรือภาชนะปิดจะไม่มีปัญหาอะไร แต่ว่าถ้าเป็นแสงไฟที่ซื้อมาเป็นหลอดที่ปล่อย UV-C ออกมา เวลาใช้ต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง หากจะใช้ฆ่าเชื้อในห้อง เวลาเปิดหลอดไฟไม่ควรจะเข้าไปอยู่ในห้อง เพราะอาจเป็นอันตรายต่อผิว และดวงตา ซึ่งหากแสงส่องโดนผิวหนังโดยตรง อาจทำให้เซลล์ผิวหนังถูกทำลาย และมีโอกาสเป็นมะเร็งผิวหนัง และหากแสงสาดเข้ามาในดวงตา อาจทำให้ตาอาจเป็นต้อ หรือเกิดความผิดปกติได้ จากการโดนรังสีทำลายกระจกกับเลนส์ตา 

ดังนั้นหากใครต้องการฆ่าเชื้อโรคด้วยรังสี UV ต้องจัดเตรียมทุกอย่างไว้ก่อนพร้อม แล้วให้ตัวเราอยู่นอกห้อง ก่อนเปิดสวิตช์ ให้แสงออกมา แล้วทิ้งไว้ในระยะเวลาที่พอสมควรจึงปิดหลอดไฟ เพื่อการกำจัดเชื้อโรคได้อย่างตรงจุดและปลอดภัยแก่ตัวเอง

ขอบคุณที่มา:

https://www.thaihealth.or.th/

https://www.capthai.com/

ข่าวปักหมุด