ย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ปี 2019 โลกได้พบไวรัสอุบัติใหม่จากค้างคาวที่มนุษย์กินเข้าไป ทำให้แพร่กระจายเป็นโรคติดต่อที่เกิดผลกระทบต่อมวลมนุษยชาติอย่างยาวนานกว่า 2 ปี นั่นคือโคโรนาไวรัส 2019 หรือโควิด-19 ซึ่งแม้ตอนนี้จะมีวัคซีนให้รับเพื่อลดการติดเชื้อ หรือลดความรุนแรงเมื่อได้รับเชื้อ แต่ก็ยังระบาดไม่มีทีท่าจะหยุด
เมื่อไม่นานมานี้ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอู่ฮั่น ประเทศจีนได้ค้นพบไวรัสโคโรนา (Corona Virus) ชนิดใหม่ในค้างคาวที่ประเทศแอฟริกาใต้ เรียกชื่อว่า NeoCoV โดยมีลักษณะสารพันธุกรรมที่ใกล้เคียงมากกับไวรัสก่อให้เกิดโรค MERS จนมีโอกาสที่จะเรียกว่า MERS-CoV-2 ซึ่งไวรัสโคโรนาลำดับ 7 ที่ก่อโรคโควิด-19 ในปัจจุบัน ก็มีสารพันธุกรรมที่ใกล้เคียงมากกับไวรัสก่อโรค SARS จนเรียกว่า SARS-CoV-2 นั่นเอง
แน่นอนว่าการค้นพบนี้ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เพราะองค์การอนามัยโลกได้ออกมาให้ความเห็นว่า ไวรัสใหม่ดังกล่าวมีความเป็นไปได้ที่จะต้องเร่งศึกษาหาข้อมูลอย่างใกล้ชิดโดยเร็วต่อไป เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่มากขึ้น เพราะสันนิษฐานว่า หากเข้าเซลล์มนุษย์ได้ จะเกิดข้อน่ากังวลดังนี้
1) ไวรัสก่อโรคโควิด-19 เป็นไวรัสตระกูลโคโรนาลำดับ 7 ซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกับไวรัสก่อโรค SARS ซึ่งเป็นไวรัสโคโรนาลำดับ 5 มาก จึงตั้งชื่อว่า SARS-CoV-2
2) โรค SARS นั้น มีความรุนแรงน้อยกว่า MERS ถึง 3 เท่า โดยมีอัตราการเสียชีวิต 10% ในขณะที่โรค MERS เสียชีวิตมากถึง 30%
3) ไวรัสก่อโรค MERS เป็นไวรัสโคโรนาลำดับ 6
4) ไวรัสตระกูลโคโรนาที่ก่อโรคในมนุษย์ที่ผ่านมา คือ ลำดับที่ 1-4 ก่อให้เกิดโรคหวัด, ลำดับที่ 5 ก่อให้เกิดโรค SARS, ลำดับที่ 6 ก่อให้เกิดโรค MERS, ลำดับที่ 7 ก่อให้เกิดโรค COVID-19
5) ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่เรียกว่า NeoCoV ที่พบในค้างคาวครั้งนี้ เกิดไปมีลักษณะใกล้เคียงกับ MERS มาก และมีโอกาสที่จะถูกตั้งชื่อว่า MERS-CoV-2 ถ้าก่อโรคในมนุษย์ได้จริง คือเป็นไวรัสโคโรนาก่อโรคในมนุษย์ลำดับที่ 8
6) ความน่าเป็นห่วงก็คือ ไวรัสที่อยู่ในค้างคาวจะไม่ก่อโรคในมนุษย์ ถ้าไม่สามารถจับและเข้าไปในเซลล์มนุษย์ได้ แต่ไวรัสใหม่ที่ค้นพบนี้บังเอิญสามารถจับกับหน่วยรับ ACE-2 แล้วเข้าเซลล์ร่างกายมนุษย์ได้
7) จึงมีความกังวลว่า ไวรัสใหม่นี้อาจจะก่อโรคแบบ COVID-19 ได้ และอาจจะรุนแรงกว่า COVID-19
ที่ผ่านมา รายละเอียดเกี่ยวกับโรค SARS และ MERS คือ SARS ระบาดในปี 2003 (พ.ศ. 2546) มีผู้เสียชีวิต 10% MERS ระบาดในปี 2012 (พ.ศ. 2555) มีผู้เสียชีวิต 30% COVID-19 ระบาดในปี 2019 (พ.ศ. 2562) เริ่มต้นมีเสียผู้เสียชีวิต 5% ปัจจุบันผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 1.53% โดยมีผู้เสียชีวิต 5.67 ล้านคน จากผู้ติดเชื้อ 371 ล้านคน
ถ้าไวรัสโคโรนาชนิดใหม่สามารถก่อให้เกิดโรคในมนุษย์ขึ้นมาได้จริง ก็อาจเรียกชื่อว่า COVID-22
ถ้าคำนวณตามสัดส่วนของโรค SARS และ MERS ที่รุนแรงขึ้น 3 เท่า ก็อาจจะทำให้ COVID-22 มีผู้เสียชีวิตมากกว่า COVID-19 ถึง 3 เท่า เช่น ในปัจจุบัน โควิด-19 เสียชีวิต 5.67 ล้านคน ถ้าเป็นโควิด-22 ก็จะเสียชีวิตมากถึง 17 ล้านคน
แน่นอนว่านี่เป็นเพียงข้อมูลของนักวิจัยที่ร่วมกันสันนิษฐานความน่าจะเป็น ถึงแม้จะเป็นเพียงความไม่แน่นอน แต่องค์การอนามัยโลกร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกหลายส่วน ต่างกำลังเร่งศึกษาว่าไวรัสชนิดนี้จะมีโอกาสก่อโรคแก่มนุษย์มากน้อยเพียงใด
ก็ได้แต่หวังว่า ขอให้ไวรัสชนิดนี้ไม่ก่อโรคแก่มนุษย์ เพราะที่เรากำลังได้รับผลกระทบจากโคโรนาไวรัส 2019 พลังของมวลมนุษยชาติก็ร่อยหรอลงทุกที ให้เวลาและโอกาสเราได้ชาร์ตพลังเต็มที่ก่อนจะมีโรคอุบัติใหม่ขึ้นด้วยเทอญ
ที่มาข้อมูล-ภาพ