ด้วยลักษณะอาหารการกินในปัจจุบัน ที่มีทั้งของมัน ของทอด ของหวาน ทำให้คนไทยมีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น แม้บางรายน้ำหนักตัวไม่มาก แต่ยังประสบปัญหาน้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งแน่นอนว่าอาจมาจากหลายปัจจัย แต่หลัก ๆ เห็นจะไม่พ้นเรื่องอาหารที่กินดื่มเข้าไปของคนในยุคสมัยนี้ ที่นิยมความเร่งด่วน เน้นรสชาติ ความทันสมัย จนทำให้ลืมนึกถึงคุณค่าทางอาหารที่ได้รับอย่างแท้จริง
หากมิตรชาวไร่หรือคนในครอบครัวเป็นหนึ่งในผู้มีปัญหาน้ำตาลในเลือดสูง เบาหวาน ความดัน นอกจากการรักษาตามแพทย์แผนปัจจุบันแล้ว ลองใช้วิธีแพทย์แผนไทย ที่เน้นการใช้สมุนไพรบำบัดโรค ซึ่งสมุนไพรแต่ละชนิดล้วนหาได้ง่าย ปลูกได้ตามริมรั้ว
สำหรับโรคเบาหวานในทางการแพทย์แผนปัจจุบันหมายถึงภาวะที่ระดับน้ำตาลในเลือดสูง เกิดจากความบกพร่องของตับอ่อน และฮอร์โมนอินซูลินในร่างกาย อาการสำคัญที่สังเกตได้ของโรคเบาหวานคือ ปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะในตอนกลางคืน หิวบ่อย กระหายน้ำบ่อย มีอาการชาปลายมือปลายเท้า หากมีบาดแผลมักจะหายช้า ภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวานส่งผลให้จอประสาทตาเสื่อม เกิดแผลกดทับ ติดเชื้อได้ง่าย โดยเฉพาะติดเชื้อรา และเชื้อแบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของความพิการตามมา
สำหรับสมุนไพรที่มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด หรือผู้ป่วยกลุ่มเบาหวาน นั้น กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แนะนำสมุนไพรที่เป็นอาหารดูแลสุขภาพในชีวิตประจำวัน ได้แก่ พืชผักสมุนไพรใกล้ตัวหลายชนิดที่ใช้เป็นอาหาร มีรายงานการวิจัยพบว่ามีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดในสัตว์ทดลองที่เป็นเบาหวาน และหลายชนิดผลการศึกษาวิจัยมีฤทธิ์ลดน้ำตาลในผู้ป่วยเบาหวาน เช่น กะเพรา ตำลึง มะระขี้นก ผักเชียงดา
โดยเฉพาะกะเพรา สมุนไพรยอดฮิตที่คนไทยนิยมรับประทานกัน ทางการแพทย์อายุรเวทของอินเดียถือว่ากะเพราเป็นสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ มีสรรพคุณหลากหลายในการแพทย์อายุรเวท เช่น บรรเทาอาการไอ หวัด และการติดเชื้อทางเดินหายใจ ช่วยย่อยอาหาร บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ช่วยลดอาการที่เกิดจากความเครียด เพิ่มความจำ เพิ่มภูมิคุ้มกัน งานวิจัยของอินเดียชี้ให้เห็นว่าการรับประทานผงใบกะเพราแห้งในปริมาณ 2.5-3 กรัม วันละ 1 ครั้ง ก่อนอาหารเช้า สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานได้ หรือให้รับประทานในปริมาณ 6 กรัม วันละ 2 ครั้ง ก่อนและหลังอาหารเช้า ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดสูงและลดไขมันในเลือดสูงได้
หรือจะนำใบกะเพรามาสกัดเป็นน้ำดื่ม วันละ 2 ครั้ง ก่อนอาหารได้ สามารถลดน้ำตาลและคอเลสเตอรอลในผู้ป่วยกลุ่มอาการอ้วนลงพุง (Metabolic Syndrome) ได้ และยังพบว่าประมาณ 63% ของผู้ป่วยเบาหวานที่ดื่มน้ำต้มกะเพราวันละ 700 มิลลิลิตร โดยต้มต้นกะเพราแห้ง 20 กรัม ในน้ำ 1 ลิตร แล้วกรองดื่ม ตอบสนองต่อฤทธิ์ลดน้ำตาลได้ดี งานวิจัยทางเคมีพบว่าสารสำคัญที่มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในกะเพราเป็นสารกลุ่มไตรเทอร์พีนอยด์ (Triterpenes) จากงานวิจัยเหล่านี้จะเห็นได้ว่าผู้ป่วยเบาหวานหรือกลุ่มเสี่ยงที่มีแนวโน้มจะเป็นเบาหวานสามารถนำใบกะเพรามาใช้เป็นอาหารในชีวิตประจำวันได้ ข้อแนะนำกรณีที่ผู้ป่วยรับประทานยาแผนปัจจุบัน การจะนำไปใช้ร่วมกับยาอื่นอาจต้องใช้กะเพราในปริมาณที่พอเหมาะ หรือปรับลดยาแผนปัจจุบันลง ซึ่งต้องกระทำโดยแพทย์เจ้าของไข้ เพื่อป้องกันภาวะช็อกจากระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ
ไม่น่าเชื่อว่าสมุนไพรใกล้ตัว ที่ปลูกตามริมรั้ว แนวเขต เหล่านี้ จะมีคุณสมบัติพิเศษสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ที่ต้องการลดน้ำตาลในเลือดได้อย่างน่าทึ่ง ทั้งนี้มิตรชาวไรสามารถศึกษาข้อมูลสมุนไพรเพิ่มเติมได้ในแอปพลิเคชั่นสมุนไพรไทย (Thai Herbs)
http://www.kingdomorganicnetwork.com/