สวัสดีค่ะพี่น้องมิตรชาวไร่ วันนี้เราจะมาว่ากันด้วยเรื่องคุณค่าของพืชเกรดล่างที่ได้ชื่อว่า “วัชพืช” กันค่ะ หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า วัชพืชบางชนิดมีคุณค่าทางสมุนไพรซ่อนตัวอยู่ และมีประโยชน์ต่อร่างกายไม่แพ้สมุนไพรชั้นเอกที่เรารู้จักกันมานาน มีวัชพืชนิดใดบ้างนั้น มาดูกันค่ะ
ส้มกบ เป็นวัชพืชที่มีความสูงแค่ 2-3 นิ้ว เลื้อยคลุมพื้นดิน มีใบรูปหัวใจแบ่งออกเป็น 3 ใบต่อ 1 ช่อ ดอกสีเหลืองที่มี 5 กลีบดอกด้วยกัน
สรรพคุณของส้มกบ คือ สารสำคัญที่มีประโยชน์ต่อร่างกายในต้นส้มกบได้แก่ กรดมาลิก กรดซิตริก แคลเซียม วิตามินซี และแคโรทีน ช่วยในการย่อยอาหาร ช่วยให้เจริญอาหาร รักษาโรคนอนไม่หลับ แก้อาการหวัด รักษาโรคดีซ่านนั่นเองค่ะ
วิธีการนำมารับประทาน คือ ด้วยรสชาติที่เปรี้ยวเค็มและหวานนิด ๆ ของส้มกบ เราจึงนำมาแต่งเติมรสชาติแทนมะขามเปียกได้ อีกทั้งยังนำใบและยอดอ่อนมาปรุงอาหาร หรือจิ้มกินกับน้ำพริกก็ได้รสชาติดีไปอีกแบบ แต่ถ้าหากจะนำมารับประทานเป็นยาไม่ควรทานติดต่อกัน 3 วัน เพราะกรดออกซาลิกที่อยู่ในใบอาจจะสร้างพิษให้กับร่างกายได้
พืชที่คนไทยขนานนามว่า ผักสลัดน้ำ นี้ เป็นพืชใบเขียวที่อยู่ในตระกูลเดียวกับดอกกะหล่ำ รูปร่างที่แท้จริงของมันจะมีลักษณะคล้ายใบบัวบก และไม่ใช่ ผักเป็ดญี่ปุ่น อย่างที่หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็น วอเตอร์เครส มาตลอดนั่นเอง ขอบอกเลยว่าชาวรักสุขภาพตัวจริงจะต้องตะลึง เมื่อได้รู้ถึงประโยชน์ของ ผักสลัดน้ำ ที่ว่านี้ค่ะ
สรรพคุณของวอเตอร์เครส คือ อุดมไปด้วยวิตามินซี แคลเซียม ธาตุเหล็ก และสารต้านอนุมูลอิสระ ที่สูงกว่าพืชต้นฉบับที่เราเคยรู้มาซะอีก ที่สำคัญยังมีสารที่ช่วยในการยับยั้งและป้องกันการเกิดมะเร็งและสารพิษต่าง ๆ ได้อีกด้วย
วิธีการนำมารับประทาน เราสามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู รวมทั้งใช้เป็นผักแนมกินกับน้ำพริกให้ถูกจริตกับวิถีของคนไทยก็ดีไปอีกแบบ แต่ถ้าหากต้องการเน้นกินเพื่อรับประโยชน์โดยตรง ก็แค่ใช้ผักสลัดน้ำ ประมาณ 10 ยอดต่อ 1 มื้อ ไปประกอบอาหารในแต่ละวัน เราก็จะได้ทั้งวิตามินซี วิตามินเอ และภูมิต้านทานโรคต่าง ๆ ให้กับร่างกาย
ขอยกตำแหน่งพืชที่เป็นได้ทั้งอาหารและยาให้กับชิคหวีดหรือหญ้าไก่ วัชพืชที่ออกดอก 1 ดอกต่อ 1 ต้น ดอกมีลักษณะคล้ายดาว กลีบดอกจะแยกออกเป็นแฉกและมีสีขาว ใบเรียวยาว เมื่อโตเต็มที่ความสูงจะประมาณ 30 เซนติเมตร
สรรพคุณ คือ อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ โอเมก้า 6 โพแทสเซียม แมกนีเซียม และยังช่วยรักษาโรคเก๊าท์ โรคข้อ ระบบทางเดินหายใจ และอาการทางผิวหนังได้เช่นกัน
วิธีการนำมารับประทาน คือ ทั้งดอก ใบ และลำต้น เราสามารถนำมากินสด ๆ ใส่ในจานสลัดเพื่อสุขภาพได้ หรือจะนำมาทำเป็นชาดื่มตอนบ่าย ๆ ช่วยล้างไขมันและขับของเสียออกจากร่างกายก็ดีไปอีกแบบ (แต่ไม่ควรทานในจำนวนที่มากเกินไป เพราะอาจจะทำให้เป็นพิษต่อร่างกายได้) อีกหนึ่งคุณสมบัติของหญ้าไก่นั่นก็คือ สามารถนำมาทำเป็นยาพอกแผลมีดบาด แผลไฟไหม้ และผดผื่นได้อีกด้วย
เป็นวัชพืชในตระกูลหญ้าที่ขึ้นลำต้น ผลิใบ และออกดอกคล้ายต้นหญ้าเจ้าชู้ หรือที่เรียกกันอีกชื่อว่า โกโบ
สรรพคุณ คือ รากของเบอร์ดอกนั้นเต็มไปด้วยสารอาหารที่ดีอย่างแคลเซียม ธาตุเหล็ก อินนูลิน ฟอสฟอรัส และโครเมี่ยม ที่จะช่วยบำรุงร่างกาย ขับของเสีย รวมไปถึงช่วยลดการดูดซึมน้ำตาลเข้ากระแสเลือดให้กับผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน
วิธีการนำมารับประทาน คือ นิยมนำรากเบอร์ดอก (โกโบ) ที่ว่านี้ มาประกอบอาหารสัญชาติญี่ปุ่น อย่าง ซุปมิโซะ ทงจิรุ โกโบนึ่ง และโกโบทอด ตามใจชอบเลยค่ะ แม้กระทั่งดอกของมัน เราก็นำมาปอกเปลือกแล้วต้ม เพื่อทานเคียงกับน้ำพริก ซึ่งจะมีรสชาติคล้ายกับหน่อไม้ฝรั่งเลยทีเดียว
วัชพืชตระกูลเดียวกับคุณนายตื่นสาย เป็นพืชล้มลุก เลื้อยปกคลุมหน้าดิน เพื่อรักษาความชื้นให้กับดิน ซึ่งดอกจะออกดอกสีเหลือง มีกลีบดอก 4-5 ดอก และใบเล็ก โค้งมนที่โอบอุ้มน้ำเอาไว้
สรรพคุณ คือ เป็นวัชพืชไซส์มินิ แต่ก็มากไปด้วย กากใย วิตามิน เกลือแร่ สารต้านอนุมูลอิสระ กรดไขมันโอเมก้า 3 ที่เป็นตัวช่วยอย่างดีในการลดคอเลสเตอรอล ควบคุมความดัน ลดการแข็งตัวของหลอดเลือด แถมยังเป็นยาที่ใช้รักษาลำไส้อักเสบ แก้ต่อมน้ำเหลืองอักเสบ รักษาแผลเป็นหนอง รักษาไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลัน และป้องกันโรคบิด
วิธีการนำมารับประทาน คือ เราสามารถนำใบ ดอก และลำต้นมาทานสด ๆ เหมือนกับวอเตอร์เครสก็ได้ หรือจะนำไปประกอบอาหารจานเด็ดอย่างเช่น โพสเลนผัด ใส่ในไข่เจียว ทำเป็นผักดอง และสลัด ซึ่งฤดูหนาวและฤดูฝนเป็นช่วงที่เหมาะกับการเก็บโพสเลนมาใช้มากที่สุด หากใครไม่ชอบทานสด ๆ ก็ให้นำต้นโพสเลนมาล้างและลวกผ่านน้ำร้อน จากนั้นนำลงไปแช่ในน้ำเย็น เพื่อไม่ให้มันสุกมากเกินไปก็ได้
ธูปฤาษีจัดว่าเป็นไม้ล้มลุกในตระกูลกก ลักษณะลำต้นจะสูงได้ตั้งแต่ 1-3 เมตร มีใบเล็กเรียวยาว ประมาณ 2 เมตร ออกดอกอัดแน่นติดกันเป็นแท่งสีน้ำตาลคล้ายธูป จะพบมากตามหนองน้ำ ริมคลอง และทะเลสาบ ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยในการบำบัดน้ำเน่าเสีย และรักษาการพังทลายของหน้าดิน
สรรพคุณ คือ ช่วยขับปัสสาวะ และเพิ่มน้ำนมให้กับคุณแม่หลังคลอดบุตร
วิธีการนำมารับประทาน คือ เลือกดึงยอดอ่อน ๆ ที่เพิ่งโผล่พ้นน้ำมาเล็กน้อย เพื่อเก็บลำต้นอ่อนสีขาวใต้ดินหรือที่เรียกกันว่า “หน่อเฟื้อ” มาทำอาหาร แต่ก่อนจะใช้เราต้องขัดล้าง และลอกเปลือกด้านนอกออกซะก่อน หรือจะเก็บไว้ทานนาน ๆ ขอแนะนำให้ใช้ผ้าขาวบางชุบน้ำเพื่อห่อหน่อเฟื้อและนำไปแช่ตู้เย็น สำหรับเมนูเด็ดที่เข้ากับรสชาติของหน่อเฟื้อมากที่สุดก็น่าจะเป็นแกงเผ็ด แกงคั่ว และที่มีรสชาติจัดตามไลฟ์สไตล์คนไทย
วัชพืชชนิดนี้อยู่ในตระกูลเดียวกับถั่ว และมักจะขึ้นแซมปกคลุมหน้าดินในสนามหญ้า ลักษณะของเรดโคลเวอร์ ที่เราสามารถสังเกตเห็นได้ชัดเจนนั้นก็คือ ดอกของมันจะมีสีแดงชมพูระเรื่อเป็นทรงพุ่ม กลีบดอกซ้อนกันเป็นชั้น ๆ และมีใบที่ฐานดอกประมาณ 3-4 ใบ แม้ลักษณะจะดูสวยงามไม่คู่ควรกับการกิน แต่กลับเป็นหนึ่งในวัชพืชที่ถูกนำมาสกัดเป็นอาหารเสริมยอดนิยมในตอนนี้
สรรพคุณ คือ รักษาอาการไข้หวัด ขับเสมหะ แก้เจ็บคอ และล้างพิษในร่างกาย
วิธีการนำมารับประทาน คือ หากไม่สะดวกที่จะทานในรูปแบบแคปซูล เราก็สามารถนำดอกและใบสด ๆ มาทานได้เช่นกัน ด้วยการเก็บดอกมาล้างให้สะอาด และนำไปแช่ในน้ำร้อนจัด เพื่อทำชาดื่ม ส่วนใครที่กำลังพึ่งพาอาหารจานสลัดผักในการรักษาหุ่น ก็แค่เด็ดกลีบดอกและใบสดใส่ลงไปในจานนั้น เพิ่มรสชาติและสีสันให้ดูน่ากินมากยิ่งขึ้น
แม้วัชพืชดังกล่าวข้างต้นจะมีคุณค่าทางสมุนไพร แต่ปริมาณการรับประทานที่เหมาะสมเป็นเรื่องที่สำคัญมาก อีกทั้งวิธีรับประทานที่ถูกต้อง ควรศึกษาให้ละเอียดถี่ถ้วน หากไม่มั่นใจ ต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านยาและสมุนไพรเพื่อความปลอดภัยนะคะ…สำหรับวัชพืชมีคุณค่า ที่เราถอนทิ้งโดยไม่รู้ตัว ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ยังมีวัชพืชอะไรอีกบ้างนั้น พบกันใหม่ตอนต่อไปค่ะ
ขอบคุณที่มาข้อมูลและภาพ :